กรุงเทพฯ 27 พ.ย. – สศค.เผยภาวะเศรษฐกิจเดือน ต.ค.ทรงตัว แต่มีสัญญาณดีขึ้น จากแรงหนุนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการบริโภคในประเทศ ส่วนการส่งออกสินค้ามีทิศทางดีขึ้น มั่นใจจีดีพีไตรมาส 4 ติดลบน้อยสุด เมื่อเทียบกับไตรมาสอื่นของปี
นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ประจำเดือนตุลาคม 2563 พบว่า เศรษฐกิจไทยเดือนตุลาคม มีสัญญาณทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า แต่ยังอยู่ในทิศทางของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในภาพรวม ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจต่างๆ ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง จากมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจในช่วงปลายปี
โดยเครื่องชี้ด้านการบริโภคเอกชนมีสัญญาณชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า ตามมูลค่าการนำเข้าสินค้าที่ลดลงและจากฐานสูงในเดือนก่อนหน้า ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้น จากปัจจัยบวก คือ ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศปรับตัวลดลง มาตรการเยียวยาผลกระทบโควิด-19 รวมถึงการออกมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจในช่วงปลายปี โดยเฉพาะโครงการเราเที่ยวด้วยกัน คนละครึ่ง และช้อปดีมีคืน รวมทั้งราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้รายได้เกษตรกรดีขึ้น
ขณะที่เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชนทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า ส่วนเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศชะลอลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากการลดลงของการส่งออกในหมวดสินค้าสำคัญ อาทิ หมวดที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน รวมถึงหมวดรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ด้านเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยด้านอุปทานปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า จากปัจจัยหนุนอุปสงค์ในประเทศที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าคงทน ส่งผลให้ภาคการผลิตมีการฟื้นตัวตามอุปสงค์ในประเทศ ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐผ่านการท่องเที่ยวและการบริโภค ช่วยสนับสนุนให้เกิดการใช้จ่ายในประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อยอดขายสินค้าและรายได้ของผู้ประกอบการ
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 0.5% และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.2% ต่อปี ขณะที่สัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนกันยายน อยู่ที่ 49.4% ต่อจีดีพี ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ และเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับมั่นคง สามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนตุลาคม อยู่ในระดับสูงที่ 248.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยนายวุฒิพงศ์ ระบุว่า ทิศทางเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 มีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากได้รับแรงกระตุ้นจากมาตรการต่างๆ และเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 จะติดลบน้อยกว่าไตรมาสอื่นที่ผ่านมา จากแรงกระตุ้นการบริโภคและการท่องเที่ยวในประเทศ รวมทั้งการส่งออกที่มีแนวโน้มดีขึ้น. – สำนักข่าวไทย