กรุงเทพฯ 24 พ.ย. – กลุ่มอมตะ คาดหวังรัฐบาลลดเวลากักตัวตรวจโควิด-19 เพื่อเปิดทางนักลงทุนเข้าไทยกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้าน “โซเด็กซ์โซ่ อมตะ เซอร์วิสเซส” มั่นใจยอดขาย 5 ปีข้างหน้าเพิ่มขึ้น 10 เท่าตัว พร้อมให้บริการ “โซลาร์รูฟท็อป” ประกันค่าไฟฟ้าลดลงร้อยละ 40-50
นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน ) ยอมรับว่า ยอดจำหน่ายที่ดินของบริษัทไม่เป็นไปตามเป้าหมายเดิม 950 ไร่ หรือประมาณ 30 – 50 ราย ซึ่งเป็นผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้นักลงทุนไม่สามารถเดินทางเข้ามาดูที่ดิน เพื่อตัดสินใจลงทุนได้ ส่วนหนึ่งเกิดจากการกักตัวที่ไทยต้องใช้เวลาถึง 14 วัน ซึ่งหากลดเหลือ 10 วัน ก็คาดว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่นักลงทุนตัดสินใจเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ปีหน้าคาดว่า ยอดขายน่าจะดีขึ้น หลังโลกมีการผลิตวัคซีนออกมาได้ ในขณะที่ เมืองไทย มีศักยภาพด้านที่ตั้งเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคนี้ มีสาธารณูปโภครองรับ อย่างไร ก็ตาม หากปัจจัยการเมืองไม่นิ่งก็จะมีผลกระทบต่อการตัดสินใจเข้ามาลงทุนเช่นกัน
“ปกติแล้ว อมตะฯจะขายที่ดินเฉลี่ย 30-50 ราย/ปี เคยสูงสุดประมาณ 102 ราย/ปี แต่ โควิด-19 ก็ทำให้นักลงทุนเข้ามาไทยไม่ได้ ซึ่งหากวัคซีนของโลกได้ผลที่ดี และการเมืองไทยนิ่ง ไม่ยุ่ง คนไทยสมัครสมานสามัคคี ก็จะเป็นแม่เหล็กดึงดูดการลงทุนมากยิ่งขึ้น” นายวิบูลย์ กล่าว
ปัจจุบันอมตะเป็นผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ โดยมีพื้นที่ 27,000 ไร่ สำหรับนิคมอุตสาหกรรม อมตะซิตี้ ชลบุรี มีจำนวนโรงงาน ถึง 700 โรงงาน และ 16,895 ไร่ สำหรับนิคมอุตสาหกรรม อมตะซิตี้ ระยอง มีจำนวนโรงงาน ถึง 356 โรงงาน
ทั้งนี้ บริษัทในกลุ่มอมตะ คือ บริษัท อมตะ ฟาซิลิตี้ เซอร์วิส จำกัด ได้ร่วมทุนกับ โซเด็กซ์โซ่ ประเทศไทย ถือหุ้นร้อยละ 40 : 60 จัดตั้ง บริษัท โซเด็กซ์โซ่ อมตะ เซอร์วิสเซส จำกัด ให้บริการบริหารจัดการอาคาร บริการดูแลและซ่อมบำรุง บริการด้านการรักษาความปลอดภัย บริการงานทำความสะอาด แก่ โรงงาน ในกลุ่มอมตะ ร่วมทุนมานาน 5 ปี มีรายได้ปี’63 อยู่ที่ 165 ล้านบาท และมีพนักงานให้บริการมากกว่า 600 คน ลูกค้า 117 โรงงาน และวางแผน 5 ปีข้างหน้า ยอดขายจะเพิ่มขึ้น 10 เท่าตัว โดยมุ่งหาลูกค้าในนิคมฯอื่นด้วย ตั้งเป้ามีรายได้ 1,500 ล้านบาท/ปี ลูกค้าไม่ต่ำกว่า 750 โรงงาน และล่าสุดได้ให้บริการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป โดยลูกค้าไม่ต้องลงทุน มีลูกค้าแล้ว 2 – 3 ราย โดยให้ประกันค่าไฟฟ้าถูกลงร้อยละ 40 – 50 โดยต้องทำสัญญา 15 – 20 ปี
นายอาร์โนด์ เบียเลคกิ ประธานบริหาร บริษัท โซเด็กซ์โซ่ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ด้วยความเชี่ยวชาญด้านการให้บริการแบบครบวงจรของ โซเด็กซ์โซ่ ที่บริษัทแม่อยู่ในฝรั่งเศส ให้บริการครอบคลุมธุรกิจที่หลากหลายใน 64 ประเทศทั่วโลก เมื่อได้มาร่วมมือกับกลุ่ม อมตะ มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้และได้จัดตั้ง Amata Command Center (ACC) เป็นจุดศูนย์กลางในการบริหารจัดการพื้นที่ภายในนิคมฯ ที่ให้บริการ 24 ชั่วโมง และด้วยจุดเด่นของการให้บริการแบบเบ็ดเสร็จในจุดเดียว ทำให้ลูกค้าลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ทำให้แผนการขยายธุรกิจไปที่นิคมฯต่างๆเป็นไปได้ด้วยดี
สำหรับธุรกิจ โซเด็กซ์โซ่ ประเทศไทย ยังให้บริการจัดอาหาร ในโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งยอมรับว่า รายได้ปี 2563 ลดลงร้อยละ 3-4 เหลือประมาณ 2,100 ล้านบาทเป็นผลกระทบจากโควิด-19 ที่ทำให้ต่างชาติไม่สามารถเดินทางมาใช้บริการโรงพยาบาลในไทยได้ บริษัทจึงเร่งทำตลาดลูกค้าในนิคมฯเพิ่มขึ้น ซึ่งหากปีหน้าสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น ก็คาดว่ายอดรายได้จะเพิ่มขึ้นร้อยละ7 – 8 . – สำนักข่าวไทย