กรุงเทพฯ 17 พ.ย. – บวท.ปรับเส้นทางบินและทิศทางการวิ่งขึ้น-ลงของเครื่องบิน เนื่องจากกระแสลมเปลี่ยนทิศทางในช่วงฤดูหนาว เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของทุกเที่ยวบิน
นายทินกร ชูวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ปฏิบัติการ) บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) เปิดเผยถึงเหตุผลและความจำเป็นในการปรับทิศทางการวิ่งขึ้นและร่อนลงของเครื่องบิน ณ สนามบินดอนเมือง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงลักษณะอากาศ ด้วยกระแสลมเปลี่ยนทิศทางในฤดูหนาว ที่เป็นกระแสลมค่อนข้างแรง ซึ่งพัดจากทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-20 น็อต หรือ 25-40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นลักษณะอากาศปกติในช่วงฤดูหนาว โดย บวท.ได้มีการปรับเส้นทางบินและปรับทิศทางการวิ่งขึ้น-ลง ของเครื่องบิน ทั้งสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ
โดยเครื่องบินที่ทำการร่อนลงสู่สนามบินดอนเมือง จะทำการบินมาจากทางทิศใต้ขึ้นไปทางทิศเหนือ เพื่อให้ทำการบินสวนกับทิศทางลมที่เปลี่ยนแปลงไปดังกล่าว ทำให้เครื่องบินมีความจำเป็นต้องทำการบินผ่านเขตเมืองกรุงเทพมหานคร อาทิ ย่านบางเขน ลาดพร้าว ดินแดง เพชรบุรี สุขุมวิท คลองเตย เพื่อร่อนลงสู่สนามบิน
สำหรับสนามบินสุวรรณภูมิ การปรับใช้เส้นทางบินจะเป็นไปในลักษณะเดียวกับสนามบินดอนเมือง คือ เครื่องบินจะทำการวิ่งขึ้นและร่อนลง จากทางทิศใต้ขึ้นไปทางทิศเหนือ ในช่วงฤดูหนาวเป็นระยะเวลาประมาณ 4 เดือนเช่นกัน ซึ่ง บวท.ได้เตรียมพร้อมบริหารจราจรทางอากาศในช่วงการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศเข้าสู่ฤดูหนาว โดยได้ประสานงานแจ้งข้อมูลให้นักบินและสายการบินทราบเรื่องการปรับเส้นทางบินและปรับทิศทางการวิ่งขึ้น-ลงของเครื่องบิน นอกจากนี้ ยังประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด และเกิดผลกระทบต่อภาพรวมของการให้บริการจราจรทางอากาศน้อยที่สุด
อย่างไรก็ตาม จากการคาดการณ์ลักษณะอากาศของสนามบินดอนเมืองในช่วงฤดูหนาวนี้ยังคงเป็นกระแสลมที่พัดมาจากทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ความเร็วไม่เกิน 10 น็อต หรือ 18 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นทิศทางและความเร็วลม ที่ยังคงอยู่ในค่ามาตรฐานความปลอดภัยที่เครื่องบินสามารถยอมรับการวิ่งขึ้นและร่อนลงได้ ในเส้นทางบินปกติ ดังนั้นหากมีการเปลี่ยนแปลงของกระแสความเร็วลมที่เกินกว่าค่ามาตรฐานความปลอดภัย บวท. ก็มีความจำเป็นต้องปรับเส้นทางบินให้เป็นลักษณะทำการวิ่งขึ้นและร่อนลง จากทางทิศใต้ขึ้นไปทางทิศเหนือ ซึ่งต้องผ่านเขตเมืองกรุงเทพมหานคร ตามพื้นที่ดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ บวท. ได้เฝ้าติดตามลักษณะอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด เพื่อวางแผนและบริหารจัดการให้เกิดความปลอดภัยต่อทุกเที่ยวบินที่ทำการบิน.-สำนักข่าวไทย