ซีพียันไม่ปลดพนักงาน หลังควบรวมโลตัส

กรุงเทพฯ 13 พ.ย. – ซีพียืนยันหลังควบรวมโลตัส ไม่ปลดพนักงาน ดูแลเอสเอ็มอี คงเงื่อนไขการค้าเหมือนเดิม


เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เปิดเผยกรณีการควบรวมกิจการของบริษัทในเครือกับ เทสโก้ โลตัส โดยระบุว่า ทุกประเทศล้วนมีธุรกิจขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ที่สนับสนุนกัน เกิดเป็นระบบนิเวศทางธุรกิจ โดยธุรกิจขนาดใหญ่แต่ละประเทศมีความจำเป็นในการเป็นกันชน เพื่อแข่งขันกับผู้เล่นระดับโลก ปัจจุบันไทยเหลือผู้เล่นขนาดใหญ่เพียงไม่กี่ราย ปัจจุบันธนาคาร โทรคมนาคม ธุรกิจสินค้าอุปโภค บริโภค มีเจ้าของเป็นต่างชาติ ดังนั้น การสนับสนุนให้คนไทยร่วมด้วยช่วยกัน โดยธุรกิจใหญ่เปิดตลาดให้ธุรกิจขนาดกลางและเล็ก โดยเฉพาะการพาธุรกิจไทยออกไปแข่งขันในต่างประเทศ จึงมีความสำคัญ

ส่วนดีลเทสโก้ โลตัส ที่กลุ่มซีพีได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ในการซื้อกลับมาจากเทสโก้ สหราชอาณาจักร มีเงื่อนไขที่สำคัญ คือ ต้องพัฒนาเอสเอ็มอี 10% ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 5 ปี ทำให้คู่ค้าและผู้ประกอบการคลายความกังวล นอกจากนี้ เงื่อนไขการค้าทั้งหมด กลุ่มซีพีจะคงไว้แบบเดิม และในส่วนของพนักงาน ซีพีไม่มีนโยบายปลดพนักงาน จึงคลายกังวลได้ระดับหนึ่ง โดยซีพี มองคู่ค้า คือ คู่ชีวิต หากคู่ค้าอยู่ไม่ได้ ซีพีจะดำเนินธุรกิจได้อย่างไร ซึ่งในหลักการที่แท้จริง ความอยู่รอดของธุรกิจ ตลาดและลูกค้าเป็นผู้กำหนด เพราะลูกค้าต้องการของดี มีคุณภาพ ดังนั้น ผู้ประกอบการทุกรายต้องพัฒนาร่วมกัน ก้าวไปด้วยกัน เช่น ในกรณีของแม็คโคร เป็นตัวอย่างที่ทำให้เห็นได้ชัดในการพัฒนาธุรกิจร่วมกัน ก้าวไปด้วยกันอย่างยั่งยืน


นางสาวรุจิกร วสุโสภณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.เอส.ฟู้ด โปรดักส์ จำกัด ผู้ผลิตแบรนด์ PS Food กล่าวถึงกรณีซีพีควบรวมกิจการกับโลตัส ว่า ไม่มีผลกระทบกับธุรกิจ แม้ซีพีจะซื้อกิจการก็ไม่มีผลกระทบ เพราะเป็นช่องทางการขยายตลาดของสินค้ามากขึ้น ประกอบกับเป็นคู่ค้ากับซีพีมาโดยตลอด กลุ่มธุรกิจด้านต่าง ๆ ของซีพี มองเห็นว่า ซีพีเป็นองค์กรที่มีธรรมาภิบาลที่ดี หลายสิบปีที่เป็นคู่ค้ากับซีพี เห็นการดูแลคู่ค้า พัฒนา ปรับปรุง และการให้เกียรติคู่ค้าของซีพีมาโดยตลอด

“การทำธุรกิจกับซีพี มีความเป็นธรรมและให้เกียรติคู่ค้าอย่างดี เชื่อว่าหากเป็นคู่ค้าที่ดี จำหน่ายสินค้าเป็นไปตามข้อกำหนดตามเงื่อนไข ไม่ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ก็สนับสนุนและทำหน้าที่ของการเป็นคู่ค้าให้ดีที่สุด” นางสาวรุจิกร กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เรือใบอิตาลีที่สวยงามที่สุดในโลกเดินทางถึงภูเก็ตแล้ว

ภูเก็ตคึกคัก เรือใบอิตาลีที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดลำหนึ่งของโลก ออกเดินทางมาแล้วรอบโลก ได้เข้าจอดเทียบท่าจังหวัดภูเก็ต โดยมีทัพเรือภาคที่ 3 ให้การต้อนรับทหารเรืออิตาลีกว่า 150 นาย อย่างอบอุ่นพร้อมเปิดให้ประชาชนขึ้นชมเรือฟรีได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.)

พระเปย์สีกา ช่องโหว่ผลประโยชน์ในดงขมิ้น

รองเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในมหาสารคาม ขอลาสิกขากลางดึก หลังถูกแฉ เป็นพระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ขณะที่รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งตรวจสอบว่า เป็นเงินส่วนตัว หรือ เงินวัด เพราะจะมีความผิดแตกต่างกัน

“สันธนะ” เปิดใจหลังเคลียร์ใจ “ชูวิทย์” กลับไทยขึ้นศาล

“สันธนะ” เผย นอนคิดมา 1 คืนเริ่มใจอ่อนรับคำขอโทษ “ชูวิทย์” รับรู้ถึงความจริงใจ แต่คดีอาญาถอนฟ้องไม่ได้ ต้องปล่อยไปตามกฎหมาย

โผล่อีก! ผู้เสียหายถูก “หมอดูฮวงจุ้ย” คนดังหลอก

เหยื่อโผล่เพิ่ม ถูกหมอดูฮวงจุ้ยคนดัง หลอกปรับฮวงจุ้ยบ้าน สูญเงิน 350,000 บาท มอบหมายทนายส่งเรื่องฟ้องทั้งคดีแพ่งและอาญา