IRPC เผยไตรมาส 3 พลิกมีกำไร 1,556 ล้านบาท

กรุงเทพฯ  10 พ.ย. – IRPC เผยไตรมาส 3/63 กำไร 1,556 ล้านบาท เดินหน้าขยายผลิตภัณฑ์กลุ่ม HVA สู้โลกเปลี่ยน


นายนพดล ปิ่นสุภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2563 IRPC มีกำไรขั้นต้นจากการผลิตตามราคาตลาด (Market GIM) อยู่ที่ 4,937 ล้านบาท (8.74 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล) เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 จากการที่ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กลุ่มปิโตรเคมีปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ ABS ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสไตรีนิคส์ ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากความต้องการสินค้าจากประเทศจีนปรับตัวสูงขึ้นแม้ว่าต้นทุน crude premium ปรับตัวสูงขึ้น และส่วนต่างราคากลุ่มปิโตรเลียมส่วนใหญ่ยังคงถูกกดดันอย่างต่อเนื่องจากผลกระทบของการแพร่ระบาด COVID-19

การดำเนินงานในไตรมาส 3/2563 ราคาน้ำมันดิบโดยเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนจากความร่วมมือ      ในการลดกำลังการผลิตของกลุ่มผู้ผลิตในโอเปกและนอกกลุ่มโอเปก รวมถึงความต้องการบริโภคน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้ IRPC มีกำไรจากสต๊อกน้ำมันสุทธิรวม 3,770 ล้านบาท หรือ 6.67 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจากการผลิตทางบัญชี (Accounting GIM) จำนวน 8,707 ล้านบาท หรือ 15.41 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 3,949 ล้านบาท หรือร้อยละ 83 ส่งผลให้ IRPC มีกำไรสุทธิ 1,556 ล้านบาท เทียบกับไตรมาสก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 411 ล้านบาท กำไรเพิ่มขึ้นร้อยละ 479     


สำหรับแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในไตรมาส 4/2563 คาดว่าจะทรงตัวอยู่ในระดับเดียวกับไตรมาส 3/2563 โดยมีปัจจัยที่   เป็นแรงผลักดันราคาจากการบริโภคน้ำมัน ที่คาดว่าจะสูงขึ้นในช่วงฤดูหนาวปลายปี ซึ่งคาดว่าจะหนาวกว่าปกติ และการที่กลุ่มโอเปกได้แสดงเจตนารมณ์ในการควบคุมการผลิตเพื่อรักษาสมดุลตลาด รวมถึงการลดลงของปริมาณการผลิตน้ำมันดิบที่อ่าวเม็กซิโก  ซึ่งได้รับผลกระทบจากพายุ ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐอเมริกาปรับตัวลดลง

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยที่กดดันราคาจากการที่กลุ่มโรงกลั่นกลับมาเดินกำลังการผลิตหลังฤดูการหยุดซ่อมบำรุง การผ่อนคลายการควบคุมการผลิตของกลุ่มโอเปก การกลับมาส่งออกของประเทศลิเบียหลังจากสถานการณ์ความขัดแย้งภายในประเทศคลี่คลาย และการระบาดของ COVID-19 ที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในบางประเทศของยุโรป แม้ว่าจะมีความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีน แต่มีการประเมินว่ายังต้องใช้เวลาถึงกลางปี 2564 จึงสามารถใช้งานได้

นายนพดล กล่าวต่อว่า ความต้องการผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีในไตรมาส 4/2563 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการ Lockdown ในบางประเทศ ทำให้โรงงานกลับมาผลิตสินค้าเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการใช้พลาสติกสูงขึ้นตามพฤติกรรมการบริโภคในยุค New Normal และการ Stock เม็ดพลาสติกเพื่อผลิตสินค้าเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลปลายปี ประกอบกับการหยุดซ่อมบำรุงของโรงงานปิโตรเคมีในภูมิภาคช่วงปลายปี ซึ่งทำให้อุปทานตึงตัว แม้ว่าอาจจะมีปัจจัยเสี่ยงจากการทยอยกลับมาผลิตของผู้ผลิตเดิมที่ต้นทุนสูงและหยุดซ่อมบำรุง รวมถึงกำลังการผลิตใหม่ที่จะมีเพิ่มขึ้น และการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของ COVID-19


“IRPC ยังคงเน้นการผลิตสินค้ากลุ่มที่มีมูลค่าเพิ่ม สำหรับผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี  ปัจจุบันสัดส่วนการผลิตสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ชนิดพิเศษ อยู่ที่ 13% และมีเป้าหมายเพิ่มการผลิตสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ชนิดพิเศษ เป็น 30% ในปี 2567 โดยจะเน้นไปที่เม็ดพลาสติกเกรดที่ใช้สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ และเม็ดพลาสติกชนิดความหนาแน่นสูงและทนทานมากกว่าโพลิเอทิลีนทั่วไป 10 เท่า หรือ UHMW-PE ที่นำไปใช้ในงานผลิตแผ่นกั้นแบตเตอรี่ ข้อเข่าเทียม เชือกลากจูงเรือ เป็นต้น” นายนพดล กล่าว

สำหรับความก้าวหน้าของโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ “สวนโซลาร์ลอยน้ำ IRPC” ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าขนาด 12.5 เมกกะวัตต์ ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยทุ่นโซลาร์ลอยน้ำผลิตจากเม็ดพลาสติก HDPE (High Density Polyethylene: โพลีเอทิลีนที่มีความหนาแน่นสูง) เกรดพิเศษสีเทา จะช่วยลดอุณหภูมิใต้แผงโซลาร์เซลล์ ส่งผลให้ระบบผลิตกระแสไฟฟ้ามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถรีไซเคิลได้ และรับประกันอายุการใช้งานของวัสดุไม่ต่ำกว่า 25 ปี  ทั้งนี้ IRPC มีโครงการขยายกำลังการผลิตพลาสติก ABS อีก 6,000 ตัน/ปี คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ และสามารถทำการผลิตได้ในต้นปีหน้า จะทำให้ IRPC มีกำลังการผลิตเม็ดพลาสติกชนิดพิเศษเพิ่มขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ COVID –19 ที่ยังไม่มีบทสรุปที่ชัดเจนและคาดว่าจะยังคงอยู่กับทุกประเทศทั่วโลก IRPC จึงวางเป้าหมายการดำเนินงานในการขยายตลาดไปสู่อุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ เช่น หน้ากากอนามัย ชุด PPE โดยได้เร่งวิจัยพัฒนาผลิตเม็ดพลาสติกเกรดพิเศษ และตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์กลุ่มนวัตกรรมทางการแพทย์ ล่าสุดได้วิจัยผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกเกรดพิเศษเพื่อผลิตผ้า Melt-blown ซึ่งเป็นแผ่นกรองอากาศที่เป็นชิ้นส่วนสำคัญในการผลิตหน้ากากอนามัย คาดว่าในช่วงต้นปีหน้าจะผลิตได้ตามเป้าหมาย      

ส่วนโครงการความร่วมมือกับคณะแพทย์ศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ในการจัดตั้งห้องปฏิบัติการกลาง เพื่อให้บริการทดสอบ สุ่มตรวจและรับรองสินค้า หน้ากากอนามัย ชุด PPE  และอุปกรณ์ที่ใช้ทางการแพทย์ ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ขณะนี้ได้บรรลุข้อตกลงแล้ว และคาดว่าจะเริ่มปฏิบัติการได้ในต้นปีหน้า                         

นอกจากนี้ IRPC ยังได้ร่วมกับพันธมิตรและมูลนิธิเพื่อการกุศล ในการขับเคลื่อนการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกอย่างต่อเนื่องและเกิดผลเป็นรูปธรรม โดยการจัดการขยะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวจากร้านอาหารแบรนด์ดังระดับโลก  ตามโมเดล “POLIMAXX ECO Solution” ที่ IRPC ได้พัฒนาขึ้น เพื่อแก้ปัญหาขยะพลาสติกตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ทำให้เกิดการรีไซเคิลอย่างถูกวิธีและมีประสิทธิภาพ ภายใต้กระบวนการทำงานแบบ Close Loop ไม่ทำให้ขยะพลาสติกที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตออกนอกระบบไปเป็นภาระแก่ชุมชนและสังคม และยังได้ร่วมกับมูลนิธิกระจกเงา ช่วยเหลือคนตกงาน ไร้บ้าน ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID – 19 ให้มีงานทำมีรายได้ เป็นการสร้างเครือข่ายให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยจะจัดให้มีการลงนามร่วมกันเร็ว ๆ นี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ตรวจสอบ รร.ประถม “พระอลงกต” ไม่ปรากฏชื่อ

ขอนแก่น 17 ส.ค.- กองปราบจ่อประชุมคณะทำงานคดี “หมอบี” เชื่อเจ้าตัวไม่หนี ขณะที่ทนายวัดพระบาทน้ำพุเลื่อนแถลงข่าว อ้างเอกสารชี้แจงยังไม่เรียบร้อย ตรวจสอบโรงเรียนประถม “พระอลงกต” ไม่ปรากฏชื่อ กรณีเพจดังตั้งข้อสงสัยวุฒิการศึกษาพระอลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ อ้างว่าปี 2518 ยังเรียน มศ.2 จะจบวิศวฯ ปี 2519 ได้อย่างไร ผู้สื่อข่าวสอบถามแหล่งข่าวในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ให้ข้อมูลว่ากรณีพระอลงกต ระบุว่าจบการศึกษาที่โรงเรียนระดับประถม(นันทวิทยาลัย) ปรากฏว่าไม่มีชื่อโรงเรียนนี้อยู่ในสังกัดสำนักงานเขตของพื้นที่ทั้ง 26 อำเภอ ใน จ.ขอนแก่น หรือถ้ามี ก็อาจจะปิดตัวไปแล้ว   ส่วนระดับมัธยมศึกษานั้น ข้อมูลยืนยันว่า พระอลงกต ศึกษาจบระดับชั้น มศ.2 ที่โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย จังหวัดขอนแก่นจริง มีศิษย์เก่าทั้งระดับชั้นเดียวกัน และรุ่นพี่รุ่นน้องต่างยืนยันว่า พระอลงกต จบจากโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัยจริง ในปี 2518 แต่ยังสงสัยในระดับปริญญาตรีว่าจะจบจริงหรือไม่   เชื่อ “หมอบี” ยังไม่หลบหนี พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ […]

รวบแล้ว “ลุงคลั่ง” ใช้ไม้หน้าสามตีหลานสาวดับ

ตรัง 17 ส.ค.- ตำรวจ สภ.ห้วยยอด รวบลุงคลั่งใช้ไม้หน้าสามฟาดหลานสาวแท้ๆ เสียชีวิตคาบ้านพัก สารภาพอ้างแค้นใจสะสมมานาน มีปากเสียงบ่อยครั้ง ตำรวจ สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง คุมตัวนายสุริยัณห์ อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้ไม้หน้าสาม กระหน่ำตี น.ส.ปาริชาติ หรือน้องเชียร์ อายุ 21 ปี นักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 3 ซึ่งเป็นหลานสาวแท้ๆ ของตัวเองจนเสียชีวิตภายในบ้านพัก จากนั้นหลบหนีขึ้นไปบนเขา คลองมวน  ต.หนองปรือ อ.รัษฎา เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้าปิดล้อมภูเขา ก่อนจับกุมตัวได้พร้อมของกลางไม้หน้าสามเปื้อนเลือด ความยาวประมาณ 60 เซนติเมตร  สอบสวนนายสุริยัณห์ รับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุจริง โดยอ้างว่ามีปัญหากับหลานสาวมานาน มักมีปากเสียงบ่อยครั้ง วันเกิดเหตุได้บุกเข้าไปในห้อง ใช้ไม้หน้าสามฟาดเข้าที่ท้ายทอยของหลานสาว 6–7 ครั้งจนเสียชีวิต ก่อนหลบหนีออกจากบ้าน ผู้ต้องหาระบุว่า เคยทำงานเป็นช่างสักตามเกาะท่องเที่ยว เช่น เกาะพะงัน และเกาะพีพี แต่มีปัญหาจึงกลับมาอยู่บ้าน มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเคยถูกส่งตัวเข้าบำบัดหลายครั้ง ขณะถูกสอบสวนยังสามารถโต้ตอบคำถามได้ปกติ แต่ไม่มีท่าทีสำนึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป สำหรับศพของ “น้องเชียร์” ล่าสุด […]

ตร.เข้มปราบแข่งรถบนทางด่วน เร่งสอบเหตุรถชน 11 คัน

17 ส.ค.- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ย้ำปราบปรามแข่งรถในทางอย่างเข้มงวด กรณีเกิดอุบัติเหตุรถชน 11 คัน บนทางด่วนศรีรัช–อุดรรัถยา เร่งตรวจสอบ พบความผิดใด ดำเนินคดีทุกกรณี วันนี้ (17 สิงหาคม 2568) พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร และหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์และเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจงานป้องกันปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากกรณีวันที่ 16 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 00.30 น. ศูนย์วิทยุ สภ.ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนกันหลายคัน บนทางด่วนศรีรัช – อุดรรัถยา ขาออก มุ่งหน้า จังหวัดปทุมธานี พื้นที่ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมหน่วยกู้ภัยการทางพิเศษเร่งเข้าตรวจสอบ พบรถยนต์เสียหายรวมทั้งสิ้น 11 คัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจำนวน 3 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ทั้งหมด ผลการตรวจไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย อย่างไรก็ตาม จากพฤติการณ์เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการขับรถด้วยความประมาท […]

สัปดาห์หน้าถกคดี “หมอบี” รอง ผบก.ป. เชื่อเจ้าตัวยังไม่หนี

17 ส.ค.- กองปราบเตรียมประชุมคณะทำงานคดี “หมอบี” สัปดาห์หน้า รอง ผบก.ป. เชื่อเจ้าตัวยังไม่หลบหนี พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบพฤติการณ์ของนายเสกสันน์ หรือ หมอบี ซึ่งอาจเข้าข่ายฉ้อโกง กรณีเปิดรับบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนโครงการของวัดพระบาทน้ำพุ ว่า ในช่วงต้นสัปดาห์หน้า คณะทำงานจะมีการเรียกประชุมเพื่อตรวจสอบข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ได้ลงไปติดตามในพื้นที่ จากการสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาเทียบเคียงและพิจารณาว่า พฤติการณ์ของนายเสกสันน์ เข้าข่ายกระทำความผิดหรือไม่ ส่วนจะเป็นวันใดนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือ สำหรับการรวบรวมพยานหลักฐาน ขณะนี้พบว่ามีความคืบหน้าไปมาก คงเหลือพยานหลักฐานบางส่วนที่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าอาจมีบุคคลที่เกี่ยวข้องหลบหนีไปนั้น พ.ต.อ.เอนก บอกว่า เบื้องต้นเชื่อว่าไม่น่าจะมีใครหลบหนี มีรายงานข่าวว่า กรณีดังกล่าวหากนายเสกสันน์ หรือผู้เกี่ยวข้องมีการหลบหนีจริง ก็เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ เนื่องจากขณะนี้เจ้าตัวยังไม่ถูกดำเนินคดี รวมถึงไม่ถือเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ทำให้ตำรวจไม่สามารถขออายัด หรือมีคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งปัจจุบันคณะทำงาน โดยเฉพาะกองบังคับการปราบปราม อยู่ระหว่างเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลออกหมายจับในกรณีที่พบการกระทำที่เข้าข่ายเป็นความผิด.-419-สำนักข่าวไทย