ตลท. มอง SET Index พุ่ง ตามทิศทางตลาดโลก รับ “ไบเดน” นั่งปธน.สหรัฐ

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 9 พ.ย. – ตลท. มอง SET Index พุ่ง ตามทิศทางตลาดโลก รับ “ไบเดน” นั่งปธน.สหรัฐ  พร้อมเล็งใช้โมเดล BOI ให้สิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับหุ้นไอพีโอ


นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทย หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐมีความชัดเจนมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากว่า 5% เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าไทยจะได้รับประโยชน์จากการการส่งออกและการท่องเที่ยวที่จะเริ่มกลับมาฟื้นตัวมากขึ้น สอดคล้องกับตลาดหุ้นต่างๆทั่วโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน พร้อมมองว่าการที่นายโจ ไบเดนเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่จะทำให้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนผ่อนคลายลง เพราะนโยบายของไบเดนค่อนข้างที่จะเป็น Globalization มากกว่า เชื่อจะส่งผลดีต่อการค้าขายของโลกและการท่องเที่ยวได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย ประกอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะออกแพ็คเกจชุดใหญ่ในปี 2564 นอกจากนี้ นโยบายของนายโจ ไบเดนที่ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด ซึ่งจะทำให้กลุ่มหุ้นที่ดำเนินธุรกิจพลังงานทดแทนบ้านเราน่าได้รับผลตอบรับเชิงบวกและการให้ความสำคัญในเรื่องของสุขภาพที่ทำให้อาจเห็นการออกมาตรการที่คล้ายกับโอบามาแคร์ โดยด้านพลังงานทดแทน, สุขภาพ และการค้าระหว่างประเทศก็น่าจะช่วยให้ตลาดหุ้นไทยและทั่วโลกมีความน่าสนใจและความเสี่ยงน้อยลง

ขณะที่แนวโน้มทิศทางเงินทุนไหลเข้า (Fund Flow) ขณะนี้ มองว่าแรงขายต่างชาติไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะแค่ที่หุ้นไทย เนื่องจากกระแสเงินทุนไหลออกทั้งภูมิภาคหลังจากเจอสถานการณ์โควิด-19 แต่ปัจจุบันเริ่มมีสัญญาณไหลออกที่เริ่มน้อยลงต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯอยู่ระหว่างดูว่าถึงจุด Stable แล้วหรือยัง หลังจากที่ผ่านมาต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยออกไปแล้วราว 3 แสนล้านบาท  โดยการที่เงินจะไหลกลับมายังตลาดหุ้นไทยได้หรือไม่ ต้องติดตามดูเรื่องของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐและวัคซีนโควิด-19 ว่าจะออกมาได้จริงหรือไม่ ซึ่งประเด็นดังกล่าวจะเป็นปัจจัยให้นักลงทุนตัดสินใจ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยก็น่าจะสามารถจั้มสตาร์ทได้เร็วหากสถานการณ์โควิด-19จบ


นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่าปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์ฯกำลังมีแนวคิดที่จะเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในการให้สิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับหุ้นไอพีโอกลุ่มธุรกิจใหม่ๆคล้ายกับคอนเซ็ปต์ของ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เพื่อผลักดันและก่อให้เกิดแรงจูงใจสำหรับกลุ่มธุรกิจใหม่ๆตั้งแต่ยังไม่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงยังมีแนวคิดที่จะออกดัชนีต่างๆเพิ่มเติม จากเดิมที่มีเพียงดัชนีกลุ่มเวลบีอิ้ง , SETHD และ SETCLMV เพื่อสร้างจุดขายและเพิ่มทางเลือกให้นักลงทุนสามารถเข้าลงทุนได้หลายหลายมากขึ้น
 
สำหรับภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์ ณ สิ้นเดือน ต.ค.63 SET Index ปิดที่ 1,194.95 จุด ลดลง 3.4% จากเดือนก่อน และปรับลดลง 24.4% จากสิ้นปีก่อน อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับ MSCI ASEAN อย่างไรก็ดี SET Index ที่ปรับลดลงทำให้อัตราส่วน P/E ratio ปรับลดลงมาใกล้เคียงกับตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ในภูมิภาค อีกทั้งอัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือน ต.ค.63 สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชีย

ในส่วนของมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมใน SET และ mai ในเดือน ต.ค.63 อยู่ที่ 53,269 ล้านบาท ทำให้ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 63 มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมอยู่ที่ 63,417 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ mai Index ทำสถิติสูงสุดในปี 63 ที่ 327.12 จุด (7 ต.ค.) ก่อนปิดที่ 309.56 จุด ณ สิ้นเดือน ต.ค.63

ทั้งนี้ เดือนนี้มีผู้ลงทุนในประเทศมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงสุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 โดยผู้ลงทุนต่างชาติยังมีสถานะเป็นผู้ขายสุทธิอย่างต่อเนื่อง โดยใน 10 เดือนแรกของปี 63 ขายสุทธิในตลาดหลักทรัพย์ไทยกว่า 2.98 แสนล้านบาท ในขณะที่ผู้ลงทุนกลุ่มอื่นเป็นผู้ซื้อสุทธิ


นอกจากนี้เดือน ต.ค.63 มีกิจกรรม IPO อย่างต่อเนื่อง โดยมีบริษัทเข้าจดทะเบียนซื้อขายใหม่ใน SET 4 บริษัท ใน mai 5 บริษัท ทำให้ใน 10 เดือนแรกของปี 63 SET มีมูลค่าระดมทุน (IPO) สูงที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ใน ASEAN


ขณะที่ mai Index ทำสถิติสูงสุดในปี 63 ที่ 327.12 จุด (7 ต.ค.) ก่อนปิดที่ 309.56 จุด ณ สิ้นเดือน ต.ค.63 สำหรับ Forward และ Historical P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือน ต.ค.63 อยู่ที่ระดับ 21.5 เท่า และ 20.7 เท่าตามลำดับ สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 17.0 เท่า และ 18.2 เท่าตามลำดับ อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือน ก.ย.63 อยู่ที่ระดับ 3.54% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 2.77%

ด้านภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 372,792 สัญญา ลดลง 13.8% จากเดือนก่อน โดยเป็นการลดลงในเกือบทุกประเภท ยกเว้น SET 50 Index Options อย่างไรก็ตาม ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2563 ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 456,923  สัญญา เพิ่มขึ้น 9.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่เพิ่มขึ้นจาก SET50 Index Futures , Gold Online Futures และ Currency Futures . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก