กรุงเทพฯ 9 พ.ย. – กนอ.ลงนามเอ็มโอยู กฟภ.เดินหน้าร่วมมือการจัดการพลังงานในนิคมอุตสาหกรรมด้วยระบบดิจิทัล และการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ นำร่องใน 4 นิคมกำลังผลิตรวม 60 เมกะวัตต์
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือโครงการจัดการพลังงานในนิคมอุตสาหกรรมด้วยระบบดิจิทัล (Digital Platform) และการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Smart Energy) ระหว่าง การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) โดยนางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยนายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โดยจะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาร่วมกันและจัดทำรายละเอียดโครงการออกมา เบื้องต้นตั้งเป้าดำเนินการใน 4 นิคมอุตสาหกรรม กำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 60 เมกะวัตต์ ใน 4 นิคมอุตสาหกรรม ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง นิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ (ฉลุง) จ.สงขลา นิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือจ.ลำพูน และนิคมอุตสาหกรรมแก่งคอย จ.สระบุรี ระบบดังกล่าวไม่เพียงแค่ประหยัดค่าใช้จ่าย ลดต้นทุนในการผลิตแล้ว ยังมุ่งเน้นไปในด้านสิ่งแวดล้อมและการจัดการพลังงานทดแทนด้วย
นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการ กนอ. กล่าวว่า โครงการจะเริ่มปีงบ 64 นี้ทันที โดยการลงนามเอ็มโอยูระหว่าง กนอ.กับกฟภ.ครั้งนี้ ถือเป็นต้นแบบความร่วมมือในการอำนวยความสะดวกด้านการบริหารจัดการพลังงาน (Energy Management System) จะมีการนำเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานให้เป็นระบบด้วยการจัดการพลังงานอัจฉริยะ (Smart Energy) ที่มีค่าประสิทธิภาพการใช้พลังงานดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือมีการใช้พลังงานทดแทน (Renewable Energy) มาใช้เป็นทางเลือกเสริมพลังงานหลักสำหรับระบบสาธารณูปโภคในนิคมฯ และอาคารส่วนกลางในนิคมฯ หรือมีการประยุกต์ใช้ระบบสมาร์ทกริด (Smart Grid) สำหรับบริหารจัดการผลิต การส่งจ่าย และการใช้ไฟฟ้า โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและระบบควบคุมอัตโนมัติในการเชื่อมโยงข้อมูล วิเคราะห์ ควบคุมจัดการ ตรวจติดตามสถานะของระบบ ควบคุมการทำงานที่ประสิทธิภาพสูงสุด ลดการสูญเสียพลังงานที่ไม่จำเป็น
นายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กล่าวเสริมว่า ความร่วมมือกับ กนอ.ในการส่งเสริมและพัฒนาการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนในกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อสร้างต้นแบบและนำร่องการบริหารจัดการพลังงานทดแทนด้วยเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System) และการนำระบบ PEA Digital Platform มาใช้บริหารจัดการพลังงานในนิคมอุตสาหกรรมให้มีประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป.-สำนักข่าวไทย