คลัง เตรียมตั้งบอร์ดเร่งรัดเบิกจ่ายงบปี 2564


กรุงเทพฯ 9 พ.ย. – รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบนโยบายกรมบัญชีกลางและกรมธนารักษ์ เตรียมตั้งบอร์ดเร่งรัดเบิกจ่ายงบปี 2564 พร้อมระบุธนาคารกรุงไทยจะยังเป็นหน่วยงานของรัฐต่อไป แม้จะไม่ใช่หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการมอบนโยบายให้กับกรมบัญชีกลางและกรมธนารักษ์ ว่า กรมบัญชีกลางมีความสำคัญกับกระทรวงการคลัง เพราะทำหน้าที่รับจ่ายเงินงบประมาณให้กับภาครัฐและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจบางส่วนซึ่งได้ให้นโยบายไปว่า จะต้องเน้นการจ่ายเงินให้รวดเร็วและรอบคอบ การตอบสนองต่อนโยบายของรัฐ เช่น บัตรสวัสดิการของรัฐ โครงการชิมช้อปใช้ โครงการคนละครึ่ง โครงการช้อปดีมีคืน การจ่ายเงินสวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุ คนพิการ จะต้องจ่ายให้อย่างรวดเร็ว เพราะยุคนี้เป็นยุคดิจิทัลเทคโนโลยี จึงอยากจะให้มีการลดขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการแข่งขัน นอกจากนี้ในส่วนของระบบจัดซื้อจัดจ้าง ได้ขอให้กรมบัญชีกลางขึ้นทะเบียนของผู้ประกอบการ เช่น การก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ทางหลวง ชลประทาน เป็นต้น
สำหรับงบประมาณปี 2564 ซึ่งมีความล่าช้าในการเบิกจ่ายไปประมาณครึ่งเดือนนั้น ได้ติดตามเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณไปแล้ว โดยหน่วยงานรัฐวิสาหกิจให้มีการเบิกจ่าย 100 % ส่วนหน่วยงานราชการให้มีการเบิกจ่าย 95%คาดว่าจะเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ในวันพรุ่งนี้หรือวันอังคารหน้า
ส่วนเรื่องธนาคารกรุงไทย จากกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความว่า ธนาคารกรุงไทย ไม่ได้เป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป ทำให้หน่วยงานราชการอาจได้รับผลกระทบเนื่องจากระเบียบของราชการกำหนดให้เงินฝาก หรือธุรกรรมการเงินของหน่วยงานราชการต้องดำเนินการผ่านธนาคารที่เป็นของรัฐเท่านั้นประเด็นดังกล่าวอาจจะส่งผลให้เงินฝาก หรือธุรกรรมของราชการที่อยู่ที่ธนาคารกรุงไทย จะผิดระเบียบหรือไม่นั้น นายอาคม ระบุว่า กระทรวงการคลังจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี พิจารณาให้ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เป็นหน่วยงานของรัฐ ตามพ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยจะมีการเสนอให้ธนาคารกรุงไทยเป็นหน่วยงานของรัฐเหมือนเดิมแม้ว่าจะไม่ได้เป็นรัฐวิสาหกิจ โดยทางกรมบัญชีกลางจะออกระเบียบใหม่ เพื่อให้หน่วยงานราชการยังสามารถทำธุรกรรมการเงินกับธนาคารกรุงไทยได้ต่อไป โดยไม่ผิดระเบียบแต่อย่างใด
สำหรับชัยชนะของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 46 นายโจ ไบเดน ที่จะมีผลต่อประเทศไทย นั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของไทย มองว่า ต้องดูนโยบายของนายโจ ไบเดน ก่อน แต่ตอนที่หาเสียงจะมี 2 เรื่องหลักๆคือ นโยบายภาษี กับ นโยบายอเมริกา ซึ่งไทยอาจจะได้ประโยชน์จากนโยบายภาษี การขึ้นค่าแรง การย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทยและประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน เป็นต้น . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่