ระยอง 9 พ.ย.- ปตท.คาดราคาน้ำมันดิบปีหน้า 40 – 50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หลัง “ไบเดน” ชนะเลือกตั้ง เดินหน้าแผนเพิ่มไฟฟ้าในพอร์ตเป็น 1.6 หมื่นเมกะวัตต์ใน 10 ปี พร้อมยกระดับพื้นที่ท่อก๊าซรั่วช่วยพิเศษต่อเนื่อง เริ่มจ่ายเงินช่วยผู้ประสบภัยวันนี้
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ หรือ ซีอีโอ บมจ.ปตท.คาดว่า ราคาน้ำมันดิบปีหน้าจะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 40 – 50ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล สูงกว่าราคาเฉลี่ยปีนี้ที่อยู่ที่ราว 41 – 42 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และเป็นราคาสมมติฐานที่กลุ่ม ปตท.ใช้ทำแผนธุรกิจปี 64 พร้อมมั่นใจรายได้ปีหน้าจะดีขึ้น จากปริมาณสินค้าและยอดขายที่ดีขึ้น ปัญหาการขาดทุนสตอกจะลดลง จากที่ไตรมาส 1/63 ขาดทุนสตอกสูงมาก
ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวประเมินจากเศรษฐกิจโลกขยายตัวดีขึ้น เป็นผลจากหลายเรื่อง เช่น การที่นายโจ ไบเดน ชนะการเลือกตั้ง ประธานาธิบดีสหรัฐ มีนโยบายผ่อนปรน ลดปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน มีนโยบายเก็บภาษีผู้มีรายได้สูงเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยผู้มีรายได้ต่ำ มีนโยบายส่งเสริมพลังงานทดแทน คาดทำให้การผลิตน้ำมันในสหรัฐลดลงด้วย ภาพรวมเหล่านี้คาดจะทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุนไปนอกสหรัฐ ดอลลาร์ก็จะอ่อนค่า เงินบาทแข็งค่าขึ้นก็มีผลทำให้ราคาน้ำมันขายปลีกในไทยใกล้เคียงขณะนี้ นอกจากนี้ เศรษฐกิจโลก คาดหวังจะดีขึ้น ยังคาดหวังความรวดเร็วในการพัฒนาวัคซีนโควิด-19
“ยอดขายน้ำมันภาคพื้นดินขณะนี้กลับมาดีขึ้นหลังรัฐบาลกระตุ้นท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ยอดขายน้ำมันเครื่องบินแม้ฟื้นกลับมาบ้างแต่ก็ต่ำกว่าปีผ่านมามากกว่าครึ่ง ดังนั้นกลุ่มโรงกลั่นของ ปตท.ใช้พลังร่วมในการบริหารให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดโดยปัจจุบันให้ไทยออยล์เป็นผู้กลั่นน้ำมันเครื่องบินรายเดียว ส่วนไออาร์พีซีและจีซี กลั่นน้ำมันประเภทอื่น” นายอรรถพลกล่าว
ทั้งนี้ กลุ่ม ปตท.เดินหน้าแผนร่วมกระตุ้นการท่องเที่ยวระยอง สนับสนุน 40 ล้านบาท จัดตั้งอุทยานการเรียนรู้สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเปิดมา 3 เดือน ผู้เยี่ยมชม ไม่ต่ำกว่า 9 พันคน เดินหน้าโครงการรีสตาร์ทไทยแลนด์ร่วมจ้างงาน 2.58 หมื่นตำแหน่ง รวมทั้งเร่งลงทุนเป็นไปตามแผน รวมทั้งหาโอกาสในธุรกิจใหม่ ตั้งเป้าธุรกิจไฟฟ้าภายในปี 2573 จะมีพลังงานทดแทนและพลังงานฟอสซิลในสัดส่วนที่เท่ากันที่ 8,000 เมกะวัตต์ จากที่ปัจจุบัน มี 500 เมกะวัตต์ และกว่า 5 พัน เมกะวัตต์ตามลำดับ
ซีอีโอ ปตท.ยังตอกย้ำข่าวดีราคาก๊าซอ่าวไทยครึ่งปีหน้าจะลดต่ำลงเป็นดีต่อค่าไฟฟ้าซึ่งราคาก๊าซผันแปรตามราคาน้ำมันเตาย้อนหลัง 6-12 เดือน ส่วนการช่วยเหลือผู้ประสบภัย จากเหตุท่อก๊าซรั่วที่ จ.สมุทรปราการ ในวันนี้ ทาง ปตท.ได้ส่งเงินช่วยเหลือก้อนแรก และประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่พิเศษที่ ปตท.จะเข้าไปฟื้นฟูร่วมพัฒนาต่อเนื่อง ส่วนการตรวจสอบสาเหตุ รอผลอย่างเป็นทางการหลังส่งชิ้นส่วนท่อส่งก๊าซฯ และตัวอย่างดินในบริเวณจุดเกิดเหตุให้ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) เพื่อวิเคราะห์ความเสียหาย และจะส่งต่อให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการประเมินความเสียหาย (Loss Adjuster) วิเคราะห์สาเหตุต่อไป
กลุ่ม ปตท.ยังเดินหน้าแผนร่วมกระตุ้นการท่องเที่ยวระยอง สนับสนุน 40 ล้านบาท จัดตั้งอุทยานการเรียนรู้สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเปิดมา 3 เดือนผู้เยี่ยมชม ไม่ต่ำกว่า 9,000 คน และเดินหน้าโครงการรีสตาร์ทไทยแลนด์ร่วมจ้างงาน 2.58 หมื่นตำแหน่ง
ขณะที่ กฟผ. พร้อมสนับสนุนโครงการ “พลังงานร่วมใจ สร้างงานพัฒนาชุมชน” ตามนโยบายรัฐบาล เตรียมจ้างงานนักศึกษาจบใหม่ วุฒิ ปวส. – ปริญญาตรี ที่มีภูมิลำเนารอบเขต/เขื่อน โรงไฟฟ้าของ กฟผ. ทั่วประเทศ 2,500 อัตรา เป็นระยะเวลา 12 เดือน เริ่มงานเดือนแรก มกราคม 2564 เพื่อร่วมสร้างงาน สร้างรายได้ กระตุ้นฟื้นฟูเศรษฐกิจจากวิกฤติ COVID-19 โดย กฟผ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ประเดิมรับสมัครเป็นที่แรก เริ่มตั้งแต่ 5-13 พ.ย.นี้.-สำนักข่าวไทย