ความเชื่อมั่นนักลงทุนซบเซาต่อเนื่อง 3 เดือน

กรุงเทพฯ 5 พ.ย. 63 – ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนใน 3 เดือนข้างหน้า ยังอยู่ในเกณฑ์ซบเซาต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 พร้อมจับตาผลการเลือกตั้งสหรัฐ เชื่อ ไม่ว่าผลออกมาทางไหนจะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นไทย ขณะที่สถานการณ์ชุมนุมในประเทศยังกดดันตลาดหุ้นไทย หวังรัฐบาลหาทางออกได้



นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน ในเดือนตุลาคม 2563 พบว่า ความเชื่อมั่นนักลงทุนทุกกลุ่ม ปรับตัวลงมาอยู่ในเกณฑ์ซบเซา เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังจากความไม่คืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ของสหรัฐ จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศหลักในยุโรปและอเมริกาเพิ่มสูงขึ้น และการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในประเทศ ทำให้ ณ สิ้นตุลาคม SET index ปิดที่ 1,194.95 จุด ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อน 3.40%

ขณะที่ความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า ดัชนีอยู่ที่ระดับ 61.27 ปรับตัวลดลง 9% จากเดือนก่อนหน้า และยังคงอยู่ในเกณฑ์ซบเซาต่อเนื่องเดือนที่ 3 โดย นักลงทุนคาดหวังการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศเป็นปัจจัยหนุนมากที่สุด รองลงมาคือ นโยบายภาครัฐและการไหลเข้าออกของเงินทุน ขณะที่ปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ สถานการณ์การเมืองในประเทศ รองลงมาคือ การถดถอยของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในประเทศ รวมถึงความกังวลต่อการระบาดระลอกสองของโควิด-19


โดยนายไพบูลย์ ระบุถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต่อภาวะตลาดหุ้นทั่วโลกว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้ยังมีความผันผวนสูง เพราะยังไม่สามารถคาดเดาผลการเลือกตั้งได้ และหากนายไบเดนชนะ สถานการณ์อาจยังไม่จบเพราะทรัมป์อาจไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง

แต่ทั้งนี้ไม่ว่าผลออกมาจะเป็นอย่างไร มองว่าทั้งทรัมป์ และไบเดนจะเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ และยังมีประเด็นกับจีนเหมือนเดิม แต่ไบเดนอาจใช้วิธีที่เบากว่าทรัมป์ ขณะที่เดียวกันไบเดนก็อาจไม่ซัพพอร์ตเรื่องภาษีกับบริษัทขนาดใหญ่โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดหุ้นเหมือนทรัมป์ ดังนั้นจากประเด็นดังกล่าว ทำให้เม็ดเงินลงทุนอาจไหลเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่รวมทั้งไทย และมองว่าจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐและทั่วโลก จะทำให้เม็ดเงินไหลออกจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเข้ามายังกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทยเพราะหุ้นส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม ยังห่วงสถานการณ์การเมืองในประเทศที่จะกดดันตลาดหุ้นไทย แต่ก็เชื่อรัฐบาลจะหาทางออกได้ รวมทั้งยังต้องติดตามพัฒนาการทางเศรษฐกิจ จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ การเปิดประเทศมากขึ้นจากการที่สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ดีขึ้น รวมทั้งผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ขณะนี้นักวิเคราะห์เริ่มปรับประมาณการในทิศทางที่ดีขึ้น จึงมองว่าเศรษฐกิจไทยมีทิศทางที่ดีขึ้น และทำให้โอกาสที่ตลาดหุ้นไทยปีหน้าจะปรับตัวดีขึ้นมีมากกว่าที่จะปรับตัวลดลง เพราะปีนี้ถือว่าเป็นจุดต่ำสุดของตลาดหุ้นไทยแล้ว


ด้านนางสาวอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เปิดเผย ดัชนีคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยเดือนพฤศจิกายน 2563 พบว่า ตลาดที่คงมุมมองเช่นเดียวกับครั้งที่แล้ว ว่า กนง. จะรักษาอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.5% ในการประชุมเดือนพฤศจิกายนนี้ ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี และอายุ 10 ปี ณ สิ้นไตรมาส 4 มีแนวโน้มไม่เปลี่ยนแปลงมากนักจากการสำรวจเมื่อวันที่ 26 ต.ค. 63 เนื่องจากการคาดการณ์ว่า กนง. จะคงดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไป แต่ต้องติดตามปัจจัยความไม่แน่นอนจากต่างประเทศในประเด็นผลการเลือกตั้งสหรัฐ BREXIT และสถานการณ์โควิด-19 ที่อาจส่งผลให้อัตราผลตอบแทนผันผวนได้ . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ยอดตายแผ่นดินไหวเมียนมา

แผ่นดินไหวเมียนมา ตายเพิ่มเป็นกว่า 2 พันราย

ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.7 ทางภาคกลางของเมียนมาเมื่อวันศุกร์พุ่งทะลุ 2 พันราย ขณะที่ชาวบ้านในเมืองมัณฑะเลย์ ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหว