กรุงเทพฯ 2 พ.ย. – ราคายางพุ่ง 80 บาท-ปาล์มแตะ 7 บาท หลังรัฐออกมาตรการกระตุ้นต่อเนื่อง
นางอัญชนา ตราโช รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคายางพาราและปาล์มน้ำมัน ซึ่งมีทิศทางดีขึ้นอย่างต่อเนื่องขณะนี้ ว่า ราคายางพาราท้องถิ่น ราคาประมูลตลาดกลางยางพาราการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) และราคาส่งออก FOB ยังคงมีทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ณ ตลาดกลางยางพาราสงขลา ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากกิโลกรัมละ 56.89 บาท วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา เพิ่มเป็นกิโลกรัมละ 80 บาท เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 41 เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 และมาตรการปิดเมืองเริ่มคลี่คลาย รวมทั้งภาครัฐมีมาตรการแก้ไขปัญหาราคายางพาราเร่งด่วนหลายด้าน
นอกจากนี้ ผู้ซื้อในประเทศต้องการเร่งส่งมอบยางในช่วงที่ปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย ขณะเดียวกันราคาตลาดซื้อขายล่วงหน้า ทั้งตลาดญี่ปุ่น และตลาดสิงคโปร์อยู่ในช่วงขาขึ้น มีแรงซื้ออยู่ในระดับสูง ความต้องการถุงมือยางปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากจากสถานการณ์โควิด-19 และภาคโรงงานผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์เริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะจีนได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ส่งผลให้เศรษฐกิจของจีนมีการขยายตัว นอกจากนี้ ยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากค่าเงินบาทอ่อนค่าลง อีกทั้งราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น
ด้านราคาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยราคาปาล์มน้ำมันรับซื้อที่หน้าโรงงานในแหล่งผลิตที่สำคัญ ได้แก่ สุราษฎร์ธานี กระบี่ และ ชุมพร ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นจากกิโลกรัมละ 4.10 – 5.00 บาท วันที่ 1 ตุลาคม เพิ่มเป็นระหว่างกิโลกรัมละ 6.00 – 6.90 บาท และราคาน้ำมันปาล์มดิบ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากกิโลกรัมละ 25.00 – 25.25 บาท เพิ่มเป็นกิโลกรัมละ 36 – 37 บาท เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันปาล์มปรับเพิ่มสูงขึ้นหลังจากสถานการณ์ โควิด – 19 เริ่มคลี่คลาย ประกอบกับมาตรการของรัฐที่กระตุ้นการใช้น้ำมันปาล์ม โดยการนำน้ำมันปาล์มดิบไปผลิตกระแสไฟฟ้า การส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซล รวมทั้งการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มเพื่อลดผลผลิตส่วนเกินของผู้ประกอบการ ทำให้ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันปาล์มเฉลี่ยเดือนละ 0.24 ล้านตัน และคาดว่าสิ้นปี 2563 สตอกน้ำมันปาล์มดิบจะปรับลดลงมาอยู่ในระดับที่เหมาะสมเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 0.28 – 0.32 ล้านตัน คาดว่าราคาปาล์มจะพุ่งต่อเนื่องจนถึงช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2564
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าราคายางพารา ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม จะยังคงทิศทางดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยกลไกตลาดและมาตรการของรัฐบาล โดยเฉพาะการขับเคลื่อนโมเดล “เกษตรฯ-พาณิชย์ทันสมัย”และนโยบาย”เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมมือขับเคลื่อนกันมาอย่างต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย