คพ.เตรียมประกาศเขตควบคุมมลพิษ รง.ระยองปล่อยของเสีย

กรุงเทพฯ  2 พ.ย. – อธิบดี คพ.ตรวจโรงงานกำจัดกากของเสีย จ.ระยอง เตรียมประกาศเป็นเขตควบคุมมลพิษ พร้อมฟ้องเรียกค่าเสียหาย


นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สั่งการให้ คพ.สำรวจบริเวณโดยรอบโรงงานของบริษัท วินโพรเสส จำกัด จ.ระยอง ซึ่งเป็นโรงงานกำจัดกากของเสียโรงงานอุตสาหกรรม เหตุปล่อยน้ำเสียจากการประกอบกิจการโรงงาน ก่อให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่เกษตร ทำให้ต้นยางยืนต้นตาย สร้างความเดือดร้อนต่อเกษตรกร รวมทั้งส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำในแหล่งน้ำผิวดินที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง

ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม (ศปก.พล.) เข้าสำรวจภายในโรงงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กอ.รมน. กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดระยอง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ กรมโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 (ชลบุรี) สำนักงานสาธารณสุขอำเภอบ้านค่าย องค์การบริหารส่วนตำบลบางบุตร จากนั้นประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำเสียจากการประกอบกิจการโรงงานที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน การทำเกษตรกรรม และส่งผลกระทบต่อแหล่งน้ำบริเวณใกล้เคียง


นายอรรถพล กล่าวต่อว่า คพ.ร่วมดำเนินการแก้ไข รวมทั้งให้ข้อเสนอแนะทางวิชาการมาอย่างต่อเนื่องต่อคณะกรรมการไตรภาคีแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมบริเวณหนองพะวา อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขผลกระทบที่เกิดขึ้นและได้มีการจัดประชุมเป็นระยะ โดยจากการตรวจสอบโรงงานพบการกักเก็บสารเคมีทั้งของเหลวและของแข็งจำนวนมาก อีกทั้งตรวจสอบคุณภาพน้ำบริเวณอ่างกักเก็บน้ำของโรงงาน พบว่ามีค่าความเป็นกรดสูง (pH 1.0-2.0) ซึ่งรั่วซึมเข้าไปในสวนยางพาราที่อยู่ติดกับโรงงาน ส่งผลให้ต้นยางพารายืนต้นตายจำนวนมาก ประชาชนที่อยู่บริเวณโรงงานไม่สามารถนำน้ำมาใช้ในการทำเกษตรกรรมได้ จึงต้องการให้โรงงานปิดกิจการ ขนย้ายวัตถุอันตรายออก แล้วฟื้นฟูสภาพแวดล้อมภายในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย รวมถึงเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ

จากการประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีแนวทางแก้ปัญหาด้วยการเร่งกำหนดขอบเขตพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำเสียโรงงาน โดยใช้ผลการตรวจสอบคุณภาพของน้ำและดิน ประกาศเขตควบคุมมลพิษ ควบคู่ไปกับประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยด้านสารเคมี เพื่อเร่งฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากโรงงาน ฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 มาตรา 96 และ 97 และดำเนินการทางกฎหมายกับแหล่งกำเนิดมลพิษอย่างถึงที่สุด ให้แหล่งกำเนิดมลพิษเร่งเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบและหยุดการรั่วซึมของน้ำเสีย และให้หน่วยงานในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้อำนาจทำตามหน้าที่อย่างเต็มกำลัง เพื่อให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบได้รับความเป็นธรรมและแก้ปัญหาอย่างเด็ดขาด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย