“สุริยะ” เร่งดึงลงทุน EEC


กรุงเทพฯ 26 ต.ค. – รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ระบุ ต่อไปจะมีการย้ายฐานการผลิตอุตสาหกรรมจากกลุ่มประเทศชั้นนำมาที่ไทย เนื่องจากสภาพภูมิศาสตร์และการจัดการปัญหาโควิดได้ดีเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศ คาดว่าในปี 2563 นี้จะมีโครงการลงทุนมากถึง 277 โครงการมูลค่ากว่า 1 แสน 6 หมื่นล้านบาทเข้ามาลงทุนในโครงการอีอีซี


นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ปาฐกถาพิเศษ “EEC Go เดินหน้าลงทุน” ว่า แม้ว่าไทยจะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐในปี 2562 และได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในปี 2563 แต่ยังเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยจะเจริญเติบโตและเดินหน้าได้จากสภาพภูมิศาสตร์ที่เป็นศูนย์กลางของกลุ่มประเทศ CLMV รวมทั้งการจัดการปัญหาโควิดได้ดีเป็นลำดับต้นๆของโลก


นายสุริยะ ระบุว่า โครงการเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซีจะช่วยยกระดับและสร้างประโยชน์ สร้างงานในพื้นที่ การมีระบบสาธารณูปโภคที่เพียงพอ การมีระบบขนส่งที่ดีจะทำให้โครงการอีอีซีสามารถเชื่อมกลุ่มประเทศ CLMV และเชื่อมโลกได้ต่อไปในอนาคตซึ่งขณะนี้โครงการอีอีซี มีแผนงานที่ชัดเจนทั้งการตั้งสำนักงานอีอีซี การออกพระราชบัญญัติอีอีซีปี 2561 การตั้งคณะกรรมการนโยบายอีอีซี จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เพราะหากมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล โครงการอีอีซีจะยังคงเดินหน้าต่อไป ทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินและการขยายท่าเรือแหลมฉบังให้รับส่งสินค้าได้มากขึ้น



สำหรับขั้นตอนต่อไปของโครงการอีอีซี คือ การชักชวนนักลงทุนเข้ามาลงทุนในประเทศไทยโดยมีสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ เป็นหน่วยงานหลัก คาดว่าในปี 2563 นี้จะมีโครงการลงทุนมากถึง 277 โครงการมูลค่า 1 แสน 6 หมื่น 1 พันล้านบาทเข้ามาตั้งฐานการผลิตในอีอีซี เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ ปิโตรเคมีและเทคโนโลยีคุณภาพ เป็นต้น


ทั้งนี้โดยส่วนตัวมั่นใจว่า ต่อไปจะมีการย้ายฐานการผลิตจาก จีน ไต้หวัน ฮ่องกง และญี่ปุ่นมาตั้งฐานการผลิตที่ไทยมากขึ้น เพราะเรามีระบบการจัดการสาธารณสุขที่มีคุณภาพโดยเห็นได้จากการป้องกันเรื่องโควิดที่ได้ผลเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ ดังนั้นกระทรวงอุตสาหกรรมจึงเร่งปรับปรุงนิคมอุตสาหกรรมทุกนิคมให้มีศักยภาพเพื่อรองรับการย้ายฐานการลงทุนมาที่ประเทศไทยมากขึ้น นอกจากนี้การทำโครงการอุตสาหกรรมอาหารปี 2563-2570 จะช่วยให้ไทยเป็นผู้นำด้านการผลิตอาหารของโลกได้ในอนาคต . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

กต.พร้อมพา 5 ตัวประกันไทยกลับบ้านเมื่อสุขภาพแข็งแรง

รมว.ต่างประเทศ เยี่ยม 5 ตัวประกันคนไทย พร้อมพาทุกคนกลับบ้านเมื่อสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีแล้ว ขณะที่ทุกคนขอบคุณที่ทำให้ได้ชีวิตใหม่

นายกฯ ฝากรายการใหม่เทปแรก ไล่เรียงนโยบายแบบ Exclusive

“โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” นักจัดรายการมือใหม่​ ฝากเนื้อฝากตัว หวังใจถึงใจกับประชาชน​ ไล่เรียงภารกิจนโยบายหลายเรื่องแบบเบื้องหลัง Exclusive 30 บาทรักษาทุกที่-บ้านเพื่อคนไทย-แก้ฝุ่น-พ.ร.ก.ไซเบอร์ ยันเงินหมื่นเฟส 3 มาแน่ รอคลังเคาะ นายกฯ รับเสียใจถูกบูลลี่เรื่องแต่งตัว​ แต่จะแต่งแบบนี้ไปทำงานให้ประชาชนมีความสุข

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุ่นขึ้น 1-2 องศาฯ ค่าฝุ่นมีแนวโน้มเพิ่ม

กรมอุตุฯ เผยมวลอากาศเย็นมีกำลังอ่อน ส่งผลให้ไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ ขณะที่ค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่ม

กกต.ขอบคุณ ปชช.ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ.

เลขาธิการ กกต. แถลงสถานการณ์หลังปิดหีบบัตรเลือกตั้ง อบจ.ทั่วประเทศ ขอบคุณประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ พร้อมชี้แจงกรณีบัตรเลือกตั้งหายที่จังหวัดบึงกาฬ