เร่งช่วยชาวเชียงรายถูกนายหน้าหลอกขายที่ดินเขตป่าสงวน

กรุงเทพฯ  20 ต.ค. – ชุดพยัคฆ์ไพรเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย หลังถูกนายหน้าหลอกเอาที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติมาจัดสรรประกาศขาย จนถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้แจ้งความดำเนินคดี


นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กล่าวว่า ได้นำเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) หรือชุดพยัคฆ์ไพร พร้อมด้วยผู้อำนวยการส่วนจัดที่ดิน สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) และผู้นำท้องที่ในเขตตำบลบ้านดู่เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีชาวบ้านในท้องที่ตำบลบ้านดู่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ร้องเรียนว่าถูกหลอกจากกลุ่มนายทุน โดยเอาที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติมาจัดสรรและประกาศขายให้ และถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้ แจ้งความดำเนินคดี

สำหรับกลุ่มชาวบ้านที่ร้องเรียนมี 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรก 146 ครอบครัว เป็นกลุ่มประชาชนที่อยู่อาศัยเดิมในท้องที่ตำบลบ้านดู่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย กลุ่มนี้ร้องเรียนประเด็นที่พบเห็นว่ามีกลุ่มนายทุนหลายกลุ่มเข้ามายึดถือครอบครองที่ดินในพื้นที่หลายพันไร่ และมีกลุ่มนายทุนนำที่ดินจำนวน 118 ไร่ ไปจัดสรรแบ่งแปลง แปลงละ 1- 4 งาน จำนวน 135 แปลง ขายราคาไร่ละ 450,000 บาท ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มประชาชนที่มาจากต่างอำเภอ เป็นชาวไทยเชื้อสายอาข่า โดยมีการประกาศขายทางวิทยุ และทางเฟซบุ๊คตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา มูลค่าความเสียหายประมาณ 50 ล้านบาท


ต่อมาช่วงปี 2560 มีกลุ่มบุคคลร้องเรียนเรื่องราวดังกล่าวไปยังเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าตรวจสอบ เมื่อช่วงต้นปี 2561 ได้ตรวจยึดจับกุมกลุ่มชาวบ้านที่เข้าซื้อที่ดินและปลูกสร้างบ้านพักเพื่ออยู่อาศัย 2564 ครอบครัวในแปลงที่ดินจัดสรรดังกล่าว กลุ่มชาวบ้านที่ถูกดำเนินคดีจึงมีการร้องเรียนไปยังกลุ่ม p-move และร้องเรียนไปตามหน่วยราชการหลายที่ รวมทั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ นายวราวุธ ศิลปอาชา ได้สั่งการให้นายอดิศร นุชดำรง อธิบดีกรมป่าไม้ ส่งชุดพยัคฆ์ไพรดำเนินการตรวจสอบดำเนินการโดยด่วน เพื่อให้ช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อน กรณีถูกหลอกขายที่ดิน และกรณีที่ถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ทั้งนี้ ชาวบ้านกลุ่มคนที่ถูกหลอกขายที่ดินจากนายทุนได้ฟ้องร้องดำเนินคดีต่อกลุ่มขบวนการที่นำที่ดินมาหลอกขายให้ 8 คน บางส่วนยังหลบหนี คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น ส่วนคดีการบุกรุกพื้นที่ป่าของชาวบ้านที่ถูกหลอกขายที่ดิน 64 ครอบครัวอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นอัยการ

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบอีกว่ากลุ่มขบวนการดังกล่าวเคยมีพฤติกรรมนำเอาที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ไปหลอกขายชาวบ้านมาแล้วหลายท้องที่ทางภาคเหนือ ซึ่งชุดพยัคฆ์ไพรจะขยายผลดำเนินการรวบรวมข้อมูล เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และจะรวบรวมข้อมูลส่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมถึงสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)ขยายผลเส้นทางการเงิน

“การแก้ปัญหาความเดือดร้อนเรื่องที่ทำกินของชาวบ้านที่ถูกตรวจยึดดำเนินคดี กรมป่าไม้จะดำเนินการคัดกรองกลุ่มบุคคลดังกล่าวตามระเบียบ เพื่อหาแนวทางดำเนินการตามโครงการจัดสรรที่ทำกินในรูปแบบ คทช. ต่อไป” นายชีวะภาพ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ