กรมป่าไม้ชี้แจงเหตุดำเนินคดีเหมืองทองอัครา

กรุงเทพฯ  16 ต.ค. – กรมป่าไม้ชี้แจงเหตุดำเนินคดีเหมืองทองอัครา ยืนยันไม่กระทบการพิจารณาคดีตามกระบวนการอนุญาโตตุลาการกับรัฐบาลไทย


นายอดิศร นุชดำรง อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.)  และศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) ร่วมกันขยายผลตรวจสอบเหมืองทองของ บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) กรณีการบุกรุกยึดถือครอบครองที่ดินตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ของบริษัทอัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) จ.พิจิตร และเพชรบูรณ์ โดยตรวจสอบพบการบุกรุกพื้นที่ครอบครองการทำประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาตและทำลายทางสาธารณะประโยชน์ของประเทศที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันในรายของบริษัท อัครา จำนวน 15 แปลง รวมเนื้อที่กว่า 73 ไร่ ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ใช่การกลั่นแกล้งหรือเป็นการนำไปต่อสู้คดีความที่มีการฟ้องร้องระหว่างบริษัทแม่กับรัฐบาลไทย

ด้าน พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผบก.ปทส. กล่าวว่า คดีดังกล่าวกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เคยรวบรวมพยานหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีบริษัทอัครารีซอร์สเซส และผู้เกี่ยวข้องตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ และ พ.ร.บ.ทางหลวง พร้อมส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบการอนุญาตให้บริษัทอัคราไมนิ่ง เปลี่ยนแปลงผังโครงการเหมืองแร่โดยมิชอบ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้บริษัทเอกชน ซึ่งมีการชี้มูลไปแล้วเมื่อปี 2559


สำหรับ 15 คดีใหม่ครั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับคดีเดิม ดังนั้น บก.ปทส.จะเสนอ บช.ก. ตั้งคณะทำงานสอบสวนเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งการดำเนินคดีเป็นไปตามพยานหลักฐานที่กรมป่าไม้รวบรวมหลักฐานซึ่งพิสูจน์ความผิดจริง เนื่องจากมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนและแจ้งความไว้ก่อนแล้ว หลังจากนี้ต้องดูว่า เหมืองแร่จะมีข้อโต้แย้งใดอีกบ้าง ตำรวจพร้อมให้มาชี้แจง ยืนยันไม่มีผลกับการพิจารณาคดีตามกระบวนการอนุญาโตตุลาการกับรัฐบาลไทย

นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ที่ปรึกษาชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร กล่าวว่า ปี 2559 คสช.มีคำสั่งให้เหมืองหยุดกิจการเพื่อปรับปรุงข้อผิดพลาดจากเรื่องสิ่งแวดล้อม สาธารณสุขและชีวอนามัย ไม่ใช่สั่งปิดกิจการ ซึ่งแต่ปี 2560 ได้ประสานการปฏิบัติภารกิจหลายหน่วย พบการขอใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้โดยไม่ถูกต้อง ประกอบกับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันได้ว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย

ล่าสุดจากการลงพื้นที่ตรวจสอบประกอบการรวบรวมพยานหลักฐานพบการกระทำผิดเกี่ยวกับที่ดินของบริษัทฯ รวมพื้นที่ 15 แปลง ใน 3 จังหวัด แบ่งเป็นการแปลงประทานบัตร อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร บุกรุกผืนป่ารวม 35 ไร่, แปลงประทานบัตร อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ 16 ไร่, บ่อกักโลหะกรรมที่ 1 พื้นที่บ้านวังทรายพูนใน บุกรุกป่า 4 ไร่ บ่อกักโลหะกรรมที่ 2 พื้นที่เดียวกัน บุกรุกป่า 3 ไร่ เป็นการกระทำผิด 3 ประการ คือ ทำลายถนน ทางสาธารณะที่ไม่ได้ขอใช้ประโยชน์กับกรมป่าไม้ ทำเหมืองแร่ออกนอกพื้นที่ได้รับอนุญาต นำพื้นที่ที่อนุญาตใช้ประโยชน์ไปออกเอกสารสิทธิ์ จึงมาร้องทุกข์กล่าวโทษกับ บก.ปทส.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด