นนทบุรี 11 ต.ค. – จีไอทีเผยทองคำหนุนส่งออกอัญมณี 8 เดือน เพิ่มร้อยละ 32 ขึ้นแท่นสินค้าส่งออกอันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5
นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือจีไอที เปิดเผยว่า การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยในช่วง 8 เดือนของปี 2563 (ม.ค.-ส.ค.) มีมูลค่า 15,206.06 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.77 คิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 474,557.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.58 ทำให้อัญมณีและเครื่องประดับขึ้นแท่นสินค้าส่งออกอันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 9.91 ของสินค้าส่งออกโดยรวมของไทย แต่หากหักทองคำ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีความผันผวนออกการส่งออกมีมูลค่า 2,935 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 43.99 คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 90,685.12 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 44.77
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ทำให้การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับรวมทองคำเพิ่มขึ้น มาจากการส่งออกทองคำเป็นมูลค่าสูงถึง 12,271.06 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 97.52 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 80 ของการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ โดยเป็นการเพิ่มขึ้นจากการการส่งออกทองคำไปเก็งกำไรจากส่วนต่างของราคา ในจังหวะที่ราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากจะทำสถิติสูงสุดในรอบ 8 ปีแล้ว ยังมีการทำสถิตินิวไฮต่อเนื่อง โดยวันที่ 6 สิงหาคม 2563 ราคาอยู่ที่ 2,067.15 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เพราะคนหันมาซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงที่เศรษฐกิจโลกมีความผันผวนสูง ขณะที่ทองคำไทยส่งออกส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของทองคำแท่ง ส่งออกไปประเทศศูนย์กลางการค้าทองคำ เช่น สวิตเซอร์แลนด์ สิงคโปร์ ฮ่องกง ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 88 มีจุดประสงค์เพื่อนำไปสกัดเป็นทองคำบริสุทธิ์ ร้อยละ 99.99 สำหรับใช้เพื่อการลงทุนและการผลิตเป็นเครื่องประดับ
ทั้งนี้ ยอดการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับหักทองคำออกลดลงร้อยละ 43.99 เพราะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้การเดินทาง การท่องเที่ยวหยุดชะงัก บางประเทศกลับมาล็อกดาวน์ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัว ขณะที่เศรษฐกิจของคู่ค้าที่สำคัญของไทยก็ได้รับผลกระทบมีการชะลอตัว ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายซื้อสินค้าที่ไม่จำเป็นลง หากดูเป็นรายสินค้าปรับตัวลงทุกรายการ โดยเครื่องประดับเงินลดร้อยละ 8.11 เครื่องประดับทองลดร้อยละ 49.16 เพชรเจียระไนลดร้อยละ 43 พลอยเนื้อแข็งเจียระไนลดร้อยละ 61.15 และพลอยเนื้ออ่อนเจียระไนลดร้อยละ 52.99
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เศรษฐกิจหลายประเทศเริ่มฟื้นตัวจากการบริโภคภายใน หลายประเทศมีแนวโน้มใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม และการใช้นโยบาย Travel Bubble เป็นส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทำให้มีการเดินทางเพิ่มขึ้น ทำให้เศรษฐกิจของหลายประเทศมีแนวโน้มที่จะทยอยฟื้นตัว ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงของการระบาดของโควิด-19 ที่อาจทำให้บางประเทศมีการล็อกดาวน์อีก ดังนั้น ผู้ประกอบการจะหวังพึ่งพาตลาดส่งออกเพียงอย่างเดียวไม่ได้ต้องหันมาเน้นการพึ่งพาตลาดภายในประเทศและประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงให้มากขึ้น และต้องประยุกต์ใช้สื่อออนไลน์ต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับผู้บริโภคที่เป็นเป้าหมาย ตลอดจนการใช้โปรโมชันต่าง ๆ เข้ามาช่วยเพิ่มยอดขายสินค้า เพื่อให้ธุรกิจมีกระแสเงินสดเข้ามาอย่างต่อเนื่องในการขับเคลื่อนธุรกิจอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย