โควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจไทยถดถอยไปมากน้อยเพียงใด…

บทความพิเศษ ตอนที่ 3  โดย ไพรินทร์ ชูโชติถาวร


เมื่อประมาณกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา หลายท่านคงจะได้ทราบถึงการแถลงข่าวของสภาพัฒน์ฯ ว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 2 ได้หดตัวลงอย่างรุนแรง โดย GDP ติดลบถึงร้อยละ 12.2 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา…

การที่เศรษฐกิจหดตัวลงเป็นผลมาจากการล็อกดาวน์นั้น ไม่ใช่เรื่องใหม่ และเป็นเรื่องที่พอจะคาดเดาได้ เพราะการล็อกดาวน์ประเทศเพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น เป็นมาตราการที่ใช้กันแพร่หลายในหลายประเทศทั่วโลก และย่อมส่งผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจโดยรวม มากบ้างน้อยบ้างตามความเข้มข้นของมาตรการ ตามที่แสดงในภาพประกอบ…


แต่สิ่งที่หลายท่านอาจจะยังไม่ทราบ คือ การหดตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสที่ 2 ที่สูงถึงร้อยละ 12.2 นั้น นับเป็นการหดตัวที่รุนแรงมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่เราเริ่มมีการเก็บตัวเลขดัชนีตัวนี้…

เราลองมาดูกันว่า เศรษฐกิจไทยหดตัวไปแล้วเท่าใด… ขนาดของ GDP หรือผลผลิตมวลรวมของไทยในปี 2562 มีขนาดประมาณ 17 ล้าน ๆ บาท ดังนั้น ถ้าเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ปีนี้ หดตัวลดลงร้อยละ 12.2  ก็หมายความว่า เศรษฐกิจได้หดตัวไปแล้วเกือบ “2 ล้านบาท” ในชั่วเวลาเพียงหนึ่งไตรมาส หรือสามเดือน !!

แล้วตัวเลข 2 ล้าน ๆ บาทมีขนาดใหญ่เพียงใด ?  


ถ้าเทียบกับงบประมาณของประเทศไทยสำหรับปี 2564  ซึ่งมีขนาดเพียงประมาณ 3 ล้านล้านบาทเศษแล้ว จะเห็นว่าการหดตัวของขนาดเศรษฐกิจไทยในไตรมาสเดียว ก็ใหญ่เกือบจะเท่ากับงบประมาณทั้งปี 2564 แล้ว และถ้ายิ่งเปรียบเทียบกับงบประมาณรายปีของกระทรวงสาธารณสุข ที่ 1.4 แสนล้านบาทด้วยแล้ว จะเห็นว่าความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจของไทยได้ระเหยไปอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาสั้น ๆ อันเป็นผลมาจากการล็อกดาวน์ประเทศ….

ขณะเดียวกันปี 2562 ทั้งปี มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยประมาณ 40 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศประมาณ 2 ล้าน ๆ บาท  และเรามีรายได้จากคนไทยเที่ยวไทยกันเองอีกราว 1 ล้าน ๆ บาท ซึ่งปัจจุบันทั้งสองส่วนเหลืออยู่น้อยมากแล้วจากผลของล็อกดาวน์…

ดังนั้น จึงไม่แปลกที่จะได้ยินเสียงร้องถึงความทุกข์ยากจากคนไทยในทุกภาคส่วนในขณะนี้…

จากตัวเลขข้างต้น คงจะเห็นถึงขนาดของความถดถอยทางเศรษฐกิจ ที่เราได้ใช้แลกไปแล้ว กับสุขภาวะในปัจจุบัน ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง…

ถ้าจะถามว่าสิ่งที่ได้แลกไปแล้วนั้นคุ้มค่าหรือไม่ คงจะไม่มีใครตอบได้และอาจจะเป็นคำถามที่ไม่จำเป็นต้องตอบ… แต่ถ้าจะถามใหม่ว่าเราจะแลกต่อไปได้อีกนานเท่าใด… คำถามนี้น่าจะเป็นคำถามบังคับ ใครสักคนคงจะต้องตอบและต้องตอบโดยเร็ว เพราะว่าจากตัวเลขข้างต้นฟ้องว่า เราเหลือเวลาอีกไม่มากแล้วที่จะต้องตอบคำถาม ….ก่อนที่……….

….บทความพิเศษ โดย “ไพรินทร์ ชูโชติถาวร” ประธาน คณะกรรมการขับเคลื่อนมาตรการบริหารเศรษฐกิจ ภายใต้ คณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 ) หรือ ศบศ. ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ……………..

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นศ.ซิ่งเก๋งชนเสาไฟล้ม 12 ต้น ทับรถ 3 คัน โค้งถนนกาญจนาภิเษก

นักศึกษาซิ่งเก๋งชนเสาไฟฟ้าล้ม 12 ต้น ทับรถที่วิ่งผ่านไปมาเสียหาย 3 คัน บริเวณโค้งถนนกาญจนาภิเษก ตัดเพชรเกษม ประชาชน 150 ครัวเรือนเดือดร้อนไฟดับ การไฟฟ้านครหลวงเร่งซ่อมแซม คาดเย็นนี้กลับมาใช้การได้ตามปกติ

นายหน้าลอยแพ 250 แรงงานไทย ไร้ตั๋วบินทำงานต่างประเทศ

ฝันสลาย แรงงานไทย 250 ชีวิต เหมารถมาสนามบินเก้อ หวังได้ไปทำงานในต่างประเทศ สุดท้ายไม่มีตั๋วบิน รวมตัวแจ้งความตำรวจ หวั่นถูกหลอกสูญเงินกว่า 12 ล้านบาท

สั่งปิดกิจการโรงงานลอบขนขยะอิเล็กทรอนิกส์

“เอกนัฏ” ลุยจับโรงงานลักลอบขนย้ายขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกยึดอายัดจากปราจีนบุรี มามหาชัย จ.สมุทรสาคร พบเป็นเครือข่ายเดียวกับ 2 โรงงานที่ถูกสั่งปิดก่อนหน้านี้ ขยายผลตามจับจนเจอขยะอิเล็กทรอนิกส์ลอตใหม่อีกกว่า 1,200 ตัน สั่งปิดกิจการทันที

ข่าวแนะนำ

ประธาน Google Cloud ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก พบนายกฯ

ประธาน Google Cloud ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เข้าพบนายกรัฐมนตรี ยืนยันความร่วมมือด้านความมั่นคงทางไซเบอร์และการป้องกันภัยจาก online scams

“เม้งการยาง” ยันไม่ทราบขวดที่ให้ “แบงค์ เลสเตอร์” กิน เป็นเจลหล่อลื่น

“เม้งการยาง” พบตำรวจไซเบอร์ เผยไม่ทราบว่าขวดที่ให้ “แบงค์ เลสเตอร์” กิน เป็นเจลหล่อลื่น หลังถ่ายรายการยังให้เงินน้องไป 2,000 บาท ด้าน “เมลาย รัชดา” เผยจะเลิกคอนเทนต์ขยะ และเลิกจัดทริปน้ำไม่อาบ

ดิจิทัลวอลเล็ตเฟส3

“ประเสริฐ” มั่นใจดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 เสร็จทัน มี.ค.นี้ ได้บริษัททำแอปแล้ว

“ประเสริฐ” รมว.ดีอี มั่นใจดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 เสร็จทัน มี.ค.นี้ หลัง “ทักษิณ” ประกาศซ้ำ เผยล่าสุดได้บริษัทจัดทำแอปพลิเคชันแล้ว ทดลองระบบ 1 เดือน แย้ม มี.ค. รอบสุดท้าย

น้ำค้างแข็งดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์อุณหภูมิลดฮวบ เหลือ 0 องศาฯ

เหนือเย็นยะเยือกต่อเนื่อง ดอยอินทนนท์อุณหภูมิลดฮวบ เหลือ 0 องศาเซลเซียส อุณหภูมิยอดหญ้าติดลบ เกิดน้ำค้างแข็งเป็นครั้งที่ 4 ของปี 2568 และเป็นครั้งที่ 12 ของหน้าหนาว