กรุงเทพฯ 2 ต.ค. – ภาคเอกชนขานรับนายกฯ ตั้ง “อาคม” เป็นขุนคลังคนใหม่ มองแง่ดีมีความรู้เกี่ยวกับเศรษฐกิจและเคยทำงานกับรัฐบาล และขอให้ช่วยสภาพคล่องผู้ประกอบการสู้พิษโควิด-19
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรีทูลเกล้าฯ รายชื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ คือ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ ว่า ในส่วนของภาคเอกชนเห็นว่ามีความเหมาะสม เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม อีกทั้งเคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จึงทราบเรื่องเกี่ยวกับเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้งเคยทำงานกับนายกรัฐมนตรี จึงเข้าใจวิถีการทำงานของภาครัฐไม่น่าจะมีปัญหาอะไรสามารถตอบโจทย์ได้ระดับหนึ่ง ส่วนการไม่มีความรู้เรื่องการเงินนั้น ทางภาคเอกชนมองว่าควรให้ความสำคัญเรื่องการดูแลเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวมที่ใหญ่กว่าภาคการเงิน ส่วนเรื่องการเงินนั้น มีผู้สามารถเสริมการทำงานของนายอาคม ได้อยู่แล้ว แต่ประเด็นสำคัญ คือ การได้รับความร่วมมือจากนายกรัฐมนตรีและจากคณะรัฐมนตรีมากน้อยเพียงใดมากกว่า
สำหรับสิ่งที่ทางภาคเอกชนต้องการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่เร่งดำเนินการ คือ การเสริมสภาพคล่องของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และมาตรการการคลังที่ช่วยกระตุ้นการบริโภคในภาพรวมได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม ในฐานะกรรมการตัวแทนภาคเอกชนในศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หรือ ศบศ.จะเสนอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พิจารณายืดมาตรการพักชำระหนี้ให้แก่ภาคธุรกิจต่ออีก 2 ปี จากที่จะสิ้นสุดเดือนตุลาคมนี้.- สำนักข่าวไทย