กรุงเทพ ฯ 1 ต.ค. – บล.ไทยพาณิชย์ คาดหุ้นไทยเดือน ต.ค. ทำระดับต่ำสุดในไตรมาส 4/63 ก่อนจะขยับขึ้นเป็น 1,400 จุดในปี 64
นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในเดือนตุลาคม นี้ มีแนวโน้มทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,250-1,200จุด และอาจจะหลุด 1,200 จุดได้ในระยะสั้นๆ เนื่องจากมีปัจจัยกดดันตลาด คือ สถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกยังมีความไม่แน่นอน นักลงทุนยังรอดูผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ติดตามการชุมนุมทางการเมืองในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ และ รอการประกาศผลประกอบการกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 3/64 โดยเฉพาะสถานการณ์หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ดังนั้นจึงจะกดดันภาพรวมการลงทุนในเดือนนี้
อย่างไรก็ตามระดับดัชนีที่ 1,250 จุด ก็เป็นระดับดัชนีที่มีความน่าสนใจในการเข้าสะสม ก่อนที่ผลการเลือกตั้งสหรัฐฯจะออกมาชัดเจน และมีแรงซื้อหุ้นกลับเข้ามาดันดัชนีในช่วงหลังประกาศผลการเลือกตั้งสหรัฐฯออกมา ซึ่งน่าจะผลักดันให้ดัชนี SET ปิดตัวในปีนี้ที่ระดับ 1,300 จุด
ส่วนในปี 64 คาดการณ์ว่าดัชนี SET จะอยู่ที่ระดับ 1,400 จุด จากความชัดเจนเรื่องการผลิตวัคซีนรักษาโควิด-19 ทำให้ตลาดคลายความกังวลลง และจะเริ่มเห็นการกลับมาฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไปมากขึ้น ขณะเดียวกันภาวะอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่ยังอยู่ในระดับต่ำ จนถึงปี2566 ทำจะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นเพิ่มขึ้น ส่วนกำไรบริษัทจดทะเบียนในปีนี้จะเป็นปีที่กำไรบริษัทจดทะเบียนถือเป็นปีฐานที่ต่ำที่สุดและจะเริ่มค่อย ๆ กลับมาฟื้นขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยในปี 64 คาดว่ากำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) จะอยู่ที่ 75.64 บาท/หุ้น จากระดับ 57.82 บาท/หุ้นในปี 63 และจะเพิ่มขึ้นมาที่ 93.88 บาท/หุ้น ใกล้เคียงกับก่อนโควิด-19
สำหรับคำแนะนำการลงทุนโค้งสุดท้าย เน้นเลือกซื้อหุ้นรายตัว ดังนี้
Core Portfolio ยังคงเน้นหุ้น defensive ที่มีคุณภาพสูง เช่น BAM, BDMS, CBG, EGCO และ GFPT , Tactical Portfolio เน้นหุ้นที่ปรับตัวตามวัฏจักรเศรษฐกิจโลกและวัฏจักรเศรษฐกิจในประเทศที่มีคุณภาพดี เช่น AP, PTT และ TOP และ S-Curve Portfolio เน้นหุ้นขนาดเล็กที่มี story การเติบโตอย่างโดดเด่น และผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เช่น AUCT, IIG, PRIME, SVI, WICE และ ZIGA.-สำนักข่าวไทย