กรุงเทพฯ 27 ก.ย. – “สุริยะ” สั่ง สศอ.ร่างแผนพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ ระยะที่ 1 ปี 64-70 ตั้งเป้าให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตเครื่องมือแพทย์ในอาเซียน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ 1 ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) ให้ทันภายในปี 2564 โดยมอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) จัดทำร่างแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ ระยะที่ 1 (พ.ศ.2564-2570) พร้อมตั้งเป้าหมายให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตเครื่องมือแพทย์ในอาเซียนภายในปี 2570
นายสุริยะ กล่าวว่า ประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุปี 2564 และเข้าสู่การเป็นสังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ปี 2574 การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร รวมถึงสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ความต้องการใช้เครื่องมือแพทย์เพิ่มขึ้นอย่างมากบางสินค้า เช่น หน้ากากอนามัย ถุงมือยางความต้องการสูงมากกว่าการผลิตและความต้องการยังมีแนวโน้มสูงอีกนาน เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคในประเทศต่าง ๆ ยังไม่สามารถควบคุมได้ จำนวนผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าคงต้องใช้เวลาอีกหลายปี จึงจะสามารถหยุดการแพร่ระบาดและลดจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อลงได้ ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้จึงเป็นโอกาสของอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ ประกอบกับประเทศไทยเป็นที่นิยมและเป็นประเทศที่มีศักยภาพสามารถรองรับการเข้ามารักษาตัวของชาวต่างชาติ รัฐบาลจึงให้ความสำคัญกำหนดเป็นเป้าหมายในการพัฒนาและผลักดันสู่การเป็นฮับทางสุขภาพ
นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้อำนวยการ สศอ. เปิดเผยว่า ร่างแผนปฏิบัติการจะมุ่งแก้ปัญหาอุปสรรคและยกระดับอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ของไทยตลอดห่วงโซ่มูลค่าให้มีการพัฒนาขยายตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นแผนปฏิบัติการที่เริ่มปฏิบัติได้ทันที แบ่งออกเป็น 3 มาตรการหลัก ได้แก่ 1.การส่งเสริมการผลิตและการลงทุนในเครื่องมือแพทย์ ให้สิทธิประโยชน์กระตุ้นให้มีการผลิตและการลงทุนเครื่องมือแพทย์ 2.การส่งเสริมช่องทางการเข้าสู่ตลาด ให้มีการใช้เครื่องมือแพทย์ที่ผลิตในประเทศมากขึ้น โดยกำหนดสิทธิประโยชน์หรือแรงจูงใจเพิ่มเติมในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างสำหรับโรงพยาบาลของรัฐ ส่งเสริมให้โรงเรียนแพทย์มีการใช้เครื่องมือแพทย์ของไทย และ 3.การส่งเสริมเตรียมความพร้อมด้านปัจจัยสนับสนุน มีการสร้างปัจจัยสนับสนุนในการยกระดับการผลิตเครื่องมือแพทย์ โดยส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา (R&D) และการต่อยอดงานวิจัยไปสู่เชิงพาณิชย์.-สำนักข่าวไทย