นนทุบรี 27 ก.ย. – กรมเจรจาฯ เตรียมยกทัพกูรูเปิดเวทีระดมความเห็นการจัดทำเอฟทีเอไทย–เอฟต้า โอกาสขยายตลาดใหม่ยุค New Normal
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ กำหนดจัดสัมมนา เรื่อง “EFTA New Market in New Normal : การขยายตลาดใหม่รับชีวิตวิถีใหม่กับกลุ่มสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป” วันที่ 30 กันยายน 2563 โรงแรมเซ็นทารา เซ็นทรัลเวิลด์ โดยเชิญวิทยากรและผู้ทรงคุณวุฒิจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน เกษตรกร นักวิชาการ และภาคประชาสังคม ร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นเรื่องโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA) หรือเอฟต้า
นางอรมน กล่าวว่า กรมฯ ได้มอบสถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา (IFD) ศึกษาวิจัยเรื่องผลประโยชน์ และผลกระทบของการจัดทำเอฟทีเอระหว่างไทยกับเอฟต้ากำหนดเสร็จประมาณปลายปีนี้ ซึ่งการจัดเวทีสัมมนาระดมความเห็นครั้งนี้จะเป็นโอกาสในการรับฟังความเห็นจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน กลุ่มเกษตรกร ภาคประชาสังคม ในเรื่องการทำเอฟทีเอระหว่างไทยกับเอฟต้า เพื่อประกอบการจัดทำความเห็นเสนอระดับนโยบายต่อไป
นางอรมน กล่าวเพิ่มเติมว่า เอฟต้าเป็นการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ มีระบบเศรษฐกิจ การค้าและมาตรฐานสินค้าใกล้เคียงกับสหภาพยุโรป ปัจจุบันเอฟต้ามีเอฟทีเอกว่า 30 ฉบับ กับ 40 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนบางประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ นอกจากนี้ เอฟต้ายังได้สรุปผลการเจรจาเอฟทีเอกับอินโดนีเซียเหลือเพียงรอการให้สัตยาบัน และยังอยู่ระหว่างการเจรจากับมาเลเซียและเวียดนาม ในส่วนของไทยเคยเจรจาเอฟทีเอ กับเอฟต้าเมื่อปี 2548 แต่หยุดชะงักเมื่อปี 2549 ซึ่งต่อมาเอฟต้าได้แสดงความสนใจฟื้นการเจรจากับไทยอีกครั้ง
ทั้งนี้ เอฟต้าเป็นคู่ค้าลำดับที่ 16 ของไทย ปี 2562 มีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 9,770 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออกไปเอฟต้ามูลค่า 5,670 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ นาฬิกาและส่วนประกอบ และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น ส่วนไทยนำเข้าจากเอฟต้ามูลค่า 4,100 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้านำเข้าสำคัญ เช่น เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ นาฬิกาและส่วนประกอบ และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เป็นต้น สำหรับการสัมมนาครั้งนี้เพิ่มช่องทางการร่วมแลกเปลี่ยนความเห็น โดยสามารถรับชมการถ่ายทอดสดผ่านทาง Facebook Fanpage กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และรับชมย้อนหลังได้ที่ Facebook และ YouTube : DTNChannel .-สำนักข่าวไทย