รองนายกรัฐมนตรี ย้ำให้สถาบันการเงินดูแลลูกหนี้ใกล้ชิด

กรุงเทพ ฯ 25 ก.ย. – “สุพัฒนพงษ์” ย้ำให้สถาบันการเงินดูแลลูกหนี้ใกล้ชิด เร่งให้ความช่วยเหลือหรือปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกหนี้โดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดภาวะวิกฤติ


ในงานสัมมนา ทางเลือก ทางรอดฝ่าวิกฤต “หนี้” นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาวน์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แสดงความกังวลถึงตัวเลขบัญชีลูกหนี้ที่ปัจจุบันมีกว่า 12.8 ล้านบัญชี รวมกว่า 7 ล้านล้านบาท ซึ่งจำนวนลูกหนี้ถือว่ามีจำนวนมาก พร้อมส่งสัญญาณถึงสถาบันการเงิน ให้ติดตามลูกแลลูกหนี้ทุกรายอย่างใกล้ชิด และเร่งให้ความช่วยเหลือหรือปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกหนี้โดยเร็ว เพราะหากสถาบันการเงินไม่ดูแลลูดหนี้ให้ดี ก็จะส่งกระทบไปถึงการว่างงานในที่สุด ทั้งนี้ตนจะใช้ตำแหน่งที่มีในการดูแลไม่ให้เกิดวิกฤตหนี้  อย่างไรก็ตามสถาบันการเงิน และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมาตรการดูแลหนี้อยู่แล้ว จึงมั่นใจว่าในไตรมาส 4 ปัญหาหนี้จะดีขึ้น


ส่วนมาตรการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจจะเป็นลักษณะการร่วมจ่าย(Co-pay)มากกว่าการแจกเงินเหมือนที่ผ่านมา ส่วนมาตรการที่เอกชนเสนอทั้งช้อปช่วยชาติ ลดภาษี ก็สามารถทำได้ แต่จะเน้นในลักษณะ Co-pay มากกว่า

ส่วนผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังคนใหม่ คาดว่าจะได้ทราบภายในเดือนตุลาคมนี้แน่นอน ซึ่งนายกรัฐมนตรียืนยันว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ จะทำงานร่วมกับตนได้

นายดนุชา พิชยนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่าหนี้สาธารณะของประเทศ ขณะนี้อยู่ที่ 47% ของจีดีพี ซึ่งต่ำกว่ากรอบที่วางไว้ที่ 60% ของจีดีพี ซึ่งเป็นตัวเลขที่ยังบริหารจัดการได้ ดังนั้นจึงไม่น่าเป็นห่วง อย่างไรก็ตามหนี้ที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นการกู้มาเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ซึ่งปัจจุบันขาดดุลอยู่ที่ประมาณ 500,000 ล้านบาท พร้อมย้ำภายใน 5 – 6 ปีต้องทำงบให้สมดุลให้ได้ หนี้อีกส่วนหนึ่งถูกนำไปใช้ในการลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ซึ่งตัวเลขหนี้ส่วนหนี้มีความจำเป็น เพราะจะส่งผลดีต่อโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ขณะที่หนี้อีกส่วนเป็นหนี้ที่เกิดจากการทำนโยบาย จึงมองว่าถึงเวลาที่ต้องปรับโครงสร้างภาครัฐให้มีขนาดกระชับ ด้วยการใช้เทคโนโลยีมากขึ้น พร้อมย้ำเงินกู้ 4 แสนล้านบาท จะถูกนำไปใช้ในส่วนของการจ้างงานโดยเฉพาะในชุมชนให้มากที่สุด ทั้งนี้ รองเลขาธิการสภาพัฒน์ แสดงความเป็นห่วงหนี้ภาคครัวเรือนที่ขณะนี้สูงถึง 80% ของจีดีพี ซึ่งต้องจับตาอย่างใกล้ชิดเพราะอาจเป็นปัญหาในอนาคตได้ .- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก