บีทีเอส ยื่นหนังสือต่อองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นขอให้ตรวจสอบรถไฟฟ้าสายสีส้ม

กรุงเทพฯ 24 ก.ย. – บีทีเอส ยื่นหนังสือต่อองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันเพื่อขอให้ตรวจสอบโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม หลังบอร์ดรฟม. รื้อทีโออาร์ โดยเห็นว่าอาจไม่เป็นธรรมและไม่โปร่งใส ด้านเลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอรัปชัน ระบุหากปรับกติกาหลังเปิดประมูลไปๅแล้ว อาจขัดต่อหลักธรรมาภิบาลและจะกระทบความเชื่อมั่นในระบบจัดซื้อจัดจ้าง


นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTS) ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) กรณีที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขทีโออาร์หลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกเอกชน โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มูลค่า 1.4 แสนล้านบาท
โดยให้ใช้เกณฑ์การพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิคควบคู่ข้อเสนอด้านราคา จากเดิมที่ใช้เกณฑ์ข้อเสนอด้านราคาพิจารณาตัดสินผู้ชนะการประมูล ซึ่งอาจสร้างความไม่เป็นธรรมให้กับผู้ซื้อซองประกวดราคา โดยต้องการให้กลับมาใช้ ทีโออาร์ เดิม ที่ให้ยึดราคาเป็นเกณฑ์พิจารณาอย่างเดียว
นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงทีโออาร์ ถือว่าไม่เป็นธรรม และได้ยื่นฟ้องร้องต่อศาลปกครองกลางแล้ว ซึ่งโครงการดังกล่างเป็นโครงการร่วมทุนพีพีพี ซึ่งครม.ได้อนุมัติและได้มีการจัดทำประชาพิจารณ์ ก่อนเปิดให้เสนอซื้อซองประมูล โดยยึดเกณฑ์การพิจารณาด้านราคาเหมือนกับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ แต่ต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลง ทีโออาร์ ใช้เทคนิคควบคู่ราคา ซึ่งการใช้เทคนิคมาพิจารณาถือเป็นใช้ดุลพิจนิจที่มากเกินไป แล้วอาจเกิดการไม่เป็นธรรมได้ อีกทั้งมีการขายซองประมูลแล้ว ซึ่งทุกฝ่ายก็เปิดหน้าชก แต่พอมีการเปลี่ยนแปลงทีโออาร์ ซึ่งบีทีเอสมองว่าอาจทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมและการหาพันธมิตรเข้ามาร่วมลงทุนก็จะยากลำบาก
นายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าวว่า การจัดซื้อจัดจ้างทุกอย่างต้องโปร่งใส เปิดเผยได้อย่างเสรี แต่โครงการนี้ มีการเปลี่ยกติกา แบบที่ไม่เคยเกิดขึันในประเทศไทยมาก่อน หากจะเปลี่ยนเงื่อนไขหลังการขายซองจะทำได้ก็ต่อเมื่อมีการยกเลิกทีโออาร์เดิมหรือขายซองใหม่เท่านั้น เพราะหากมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขหลังการขายซองแล้วถือว่าขัดต่อธรรมาภิบาล จึงมองได้ว่า จะเป็นการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมหากยอมรับ ประเทศจะเสียความเชื่อมั่นจากนักลงทุน
นายมานะ กล่าวด้วยว่า การประมูลรถไฟฟ้าของประเทศไทยที่ผ่านมาจำนวน 3 โครงการ ได้แก่ สายสีน้ำเงิน สีเขียว และสีม่วง ที่มีมูลค่ากว่าแสนล้านบาท ภาครัฐบาลได้ใช้ข้อตกลงคุณธรรมเพื่อมีความโปร่งใส แต่กลับกันโครงการนี้ที่โครงการเดียวมีมูลค่ากว่าแสนล้านบาทเทียบเท่ากับทั้ง 3 สาย ทาง ACT ตั้งข้อสังเกตว่า หากมีการใช้ข้อตกลงคุณธรรมตั้งแต่ต้นก็จะเกิดความโปร่งใสและรักษาผลประโยชน์ของประเทศได้ . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย 24-25 ก.พ.68 ไทยตอนบนอากาศแปรปรวน-พายุฝนฟ้าคะนอง

กรมอุตุฯ เผยช่วงวันที่ 24-25 ก.พ. 68 ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล ภาคตะวันออก จะมีสภาพอากาศแปรปรวน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง

จับหนุ่มอินเดียขนเงินกว่า 15 ล้านบาท เข้าไทย

หนุ่มอินเดียหอบเงินสด 15.7 ล้านบาท เดินเท้าจากปอยเปตเข้าไทย อ้างเล่นพนันได้ เจ้าหน้าที่เร่งขยายผล หวั่นพัวพันคอลเซ็นเตอร์

โฆษกรัฐบาล นำบุกร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า แต่ไหวตัวทันไม่เจออะไร

โฆษกรัฐบาล นำ สคบ.-สธ. บุกร้านลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าย่านสายไหม หลังได้รายงานลับ แต่ร้านไหวตัวทัน ปิดหนีหมดไม่เจออะไร เตรียมเสนอนายกฯ ตั้ง กก.ปราบจริงจัง เผยตัวเลขขายปีละ 5 พันล้าน อ้างเป็นสินค้าผ่านแดน แต่ปล่อยหลุดเข้าไทย

รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย เอี่ยวฟอกเงินหลอกลงทุนคริปโต

ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย กินหรูอยู่สบาย เอี่ยวฟอกเงินขบวนการหลอกลงทุนคริปโต พบเกี่ยวพันอีก 28 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท