กรุงเทพฯ 18 ก.ย. – เคทีซีเจาะตลาดสินเชื่อมีหลักประกัน หวังเติบโตระยะยาว คาดปี 64 พอร์ตสินเชื่อแตะ 1,000 ล้านบาท
นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือเคทีซี กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจบัตรเครดิตหลังจากนี้จะเปลี่ยนแปลงไป ด้วยหลายปัจจัยเข้ามากดดันการทำธุรกิจ ซึ่งบริษัทต้องมีการปรับแผนธุรกิจใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมากขึ้น เพื่อให้บริษัทยังมีกำไรให้กับผู้ถือหุ้นและสามารถดูแลพนักงานได้ ขณะเดียวกันบริษัทก็ต้องดูแลสังคมด้วยเช่นกัน โดยการปรับแผนธุรกิจ ทำให้มั่นใจว่าปีนี้กำไรของบริษัทจะลดลงไม่เกิน 10% และปีถัดไปจะเห็นการกลับมาเติบโตของกำไรอีกครั้ง
ทั้งนี้ ได้ปรับกลยุทธ์โดยหันมาโฟกัสธุรกิจใหม่มากขึ้น โดยจะมุ่งเป้าไปที่สินเชื่อมีหลักประกันเริ่มต้นจากสินเชื่อจำนำทะเบียน “พี่เบิ้ม” ซึ่งเริ่มขยายตลาดเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หลังจากนี้จะได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกรุงไทย ซึ่งมีฐานลูกค้าส่วนใหญ่ โดยตลาดนี้ถือว่ายังมีศักยภาพในการเติบโตค่อนข้างดี พร้อมเตรียมขยายไปยังสินเชื่อประเภทอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น สินเชื่อเช่าซื้อ สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ รวมถึงสินเชื่ออื่น ๆ ที่สามารถทำกำไรได้ในอนาคต โดยต้องศึกษาตลาดให้ดีก่อน
นางสาวเรือนแก้ว เกษมสวัสดิ์ศรี ผู้อำนวยการ – ธุรกิจสินเชื่อ “เคทีซี พี่เบิ้ม” เคทีซี กล่าวว่า ภาพรวมการทำธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2563 สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับประเภทสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกันกว่า 3,392,032 บัญชี และมียอดสินเชื่อคงค้างในระบบถึง 137,637 ล้านบาท อีกทั้งปัจจัยทางเศรษฐกิจและมาตรการข้อบังคับต่าง ๆ ในฐานะผู้เข้ามาเริ่มทำธุรกิจ ถือว่ามีความท้าทายสูงในการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในอุตสาหกรรมนี้ แต่ด้วยการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลหลายมิติและการติดตามทำความเข้าใจกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าเชิงลึกอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง ประกอบกับโครงสร้างการทำธุรกิจ และระบบการบริหารจัดการด้านปฏิบัติการและเครือข่ายที่เป็นจุดแข็งของเคทีซี เชื่อว่าจะช่วยให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการได้บรรลุเป้าหมายการเติบโตทางธุรกิจในอนาคตอันใกล้ โดยคาดว่าสิ้นปี 2564 จะมีพอร์ตสินเชื่อ 1,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ สินเชื่อทะเบียนรถ “เคทีซี พี่เบิ้ม” มีวงเงินสูงสุดถึง 700,000 บาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ เริ่มต้น 0.98% ต่อเดือน หรือเท่ากับ 21% ต่อปีแบบลดต้นลดดอก โดยสามารถอนุมัติถึงที่และรู้ผลใน 2 ชั่วโมง.- สำนักข่าวไทย