กรุงเทพฯ 18 ก.ย. – รมว.เกษตรฯ แจงไม่ห้ามทำนา แต่ขอทุกฝ่ายร่วมมือกันใช้น้ำอย่างประหยัด เหตุน้ำในเขื่อนน้อย สั่งเร่งเก็บกักน้ำจากฝนที่ตกด้วยอิทธิพลของพายุโนอึล พร้อมส่งเสริมปลูกพืชใช้น้ำน้อย
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีที่มีสื่อรายงานว่า กระทรวงเกษตรฯ ห้ามทำนา เนื่องจากน้ำน้อย ยืนยันว่าไม่มีนโยบายให้เกษตรกรงดทำนา แต่การมอบนโยบายการบริหารจัดการน้ำที่กรมชลประทานได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ ทั่วประเทศ ที่ขณะนี้ใกล้สิ้นสุดฤดู แต่ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศยังอยู่ในเกณฑ์น้อย จึงขอให้ทุกฝ่ายร่วมใจกันใช้น้ำอย่างประหยัดที่สุด เพื่อให้มีปริมาณน้ำสำรองไว้ใช้อย่างเพียงพอตลอดฤดูแล้งหน้า ส่วนเกษตรกรที่เพาะปลูกแล้ว ขอให้ใช้น้ำท่าในแหล่งน้ำธรรมชาติเป็นหลัก
ทั้งนี้ สั่งกรมชลประทานเก็บกักน้ำจากฝนที่ตกด้วยอิทธิพลของพายุ “โนอึล” ที่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยไว้ให้มากที่สุด และกรมส่งเสริมการเกษตรเตรียมส่งเสริมปลูกพืชใช้น้ำน้อยในฤดูแล้งที่จะเริ่มตั้งแต่ 1 พฤศจิกายนนี้ โดยพืชที่จะส่งเสริม ได้แก่ ผัก ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ข้าวโพด หรือปอเทืองซึ่งเป็นปุ๋ยพืชสด ทั้งนี้จะปลูกพืชชนิดใด ต้องให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำท่าแต่ละพื้นที่ รวมทั้งหาตลาดรองรับให้เกษตรกรด้วย
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า จะมีฝนตกเพิ่มขึ้นจากอิทธิพลของพายุโนอึล ซึ่งสั่งการให้โครงการชลประทานทุกแห่งพร้อมรับสถานการณ์ โดยในพื้นที่ที่ฝนตกหนักต่อเนื่องให้เฝ้าระวังภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก หากเกิดขึ้นให้นำเครื่องจักรเครื่องมือเข้าบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้เร็วที่สุด
ขณะเดียวกันฝนที่จะตกระหว่างวันที่ 18-20 กันยายนนี้จะส่งผลดีทำให้มีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้น สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ปัจจุบันมีปริมาณรวม 34,560 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 49 ของความจุอ่างรวมกัน เป็นน้ำใช้การได้ 11,124 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยาได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีน้ำรวม 10,185 ล้าน ลบ.ม หรือร้อยละ 41 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกันประมาณ 3,489 ล้าน ลบ.ม. ผลการจัดสรรน้ำฤดูฝนทั้งประเทศใช้น้ำไปแล้ว 10,436 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 87 ของแผนฯ เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีการใช้น้ำไปแล้ว 3,357 ล้าน ลบ.ม. หรือเกินแผนไปแล้วร้อยละ 3 ในอ่างเก็บน้ำส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในเกณฑ์น้อย
นายทองเปลว กล่าวว่า ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ปี 2563 น้อยกว่าปีที่แล้ว 11,882 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปริมาณน้ำรวมกันปีนี้น้อยกว่าปี 2562 ประมาณ 1,671 ล้าน ลบ.ม. แผนเพาะปลูกข้าวนาปีที่วางไว้ทั่วประเทศ 16.79 ล้านไร่ ปัจจุบันเพาะปลูกไปแล้ว 13.34 ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 77 ของแผน เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยาทำนาปีไปแล้ว 5.66 ล้านไร่ หรือร้อยละ 69 ของแผนที่วางไว้ 8.10 ล้านไร่ ซึ่งตั้งแต่ก่อนเข้าฤดูฝน ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรใช้น้ำฝนและน้ำท่าจากแหล่งน้ำธรรมชาติเป็นหลักในการเพาะปลูก โดยพื้นที่ที่เพาะปลูกแล้วในห้วงที่ประสบภาวะฝนทิ้งช่วงดูแลด้วยการระบบหมุนเวียนใช้น้ำตามคลองในระบบชลประทานหรือจัดรอบเวรแบ่งเป็นให้ท้ายคลองสูบก่อน จากนั้นจึงให้กลางคลองและต้นคลองตามลำดับ ซึ่งยืนยันว่าน้ำมีเพียงพอสำหรับอุปโภค-บริโภค รักษาระบบนิเวศน์ และการเกษตรแน่นอน.-สำนักข่าวไทย