กรุงเทพฯ 10 ก.ย. – สคร.เร่งรัฐวิสาหกิจเบิกงบลงทุนปี 63 ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19
นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า สคร.ได้ติดตามการเบิกจ่ายงบลงทุนปี 2563 ของรัฐวิสาหกิจ 44 แห่ง ที่ สคร.กำกับดูแล โดยสิ้นเดือนกรกฎาคม 2563 มีผลการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม 143,973 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 84 ของแผนการเบิกจ่ายสะสม โดยรัฐวิสาหกิจที่มีงบลงทุนขนาดใหญ่และสามารถเบิกจ่ายได้ตามเป้าหมายที่กำหนด ได้แก่ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และการไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง
นางสาวปิยวรรณ ล่ามกิจจา รองผู้อำนวยการ สคร. รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนารัฐวิสาหกิจ กล่าวว่า ผลการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมของรัฐวิสาหกิจ 44 แห่ง แบ่งเป็นการเบิกจ่ายของรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ 34 แห่ง จำนวน 78,654 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 72 ของแผนการเบิกจ่าย งบลงทุนสะสม 10 เดือน (ต.ค.62–ก.ค.63 และการเบิกจ่ายของรัฐวิสาหกิจปีปฏิทิน 10 แห่ง จำนวน 65,319 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 103 ของแผนการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม
สำหรับ 7 เดือนปี 2563 (ม.ค.-ก.ค.) มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่สามารถเบิกจ่ายเกินกว่าเป้าหมาย เช่น โครงการปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าภาคใต้ตอนล่างและภาคตะวันตกของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม –มีนบุรีและโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต– สะพานใหม่– คูคต ของ รฟม.สำหรับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่เบิกจ่ายได้ต่ำกว่าเป้าหมายยังคงเป็นโครงการที่ล่าช้ามาอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย–จีนระยะที่ 1 ของการรถไฟแห่งประเทศไทย โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของบริษัท ท่าอากาศยานไทยจำกัด (มหาชน) และโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 –ดาวคะนอง–วงแหวนรอบนอกตะวันตกของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)
“สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศเริ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่จากผลกระทบของโควิด-19 ทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศครึ่งปีแรกชะลอตัว ซึ่งการลงทุนของภาครัฐที่มีอย่างต่อเนื่องจะช่วยสนับสนุนให้อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจให้ดีขึ้นได้ ดังนั้น สคร.จะกำกับดูแลให้รัฐวิสาหกิจเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ เพื่อเป็นการสนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทางหนึ่ง” ผอ.สคร. กล่าว.-สำนักข่าวไทย