คมนาคมเปิดตัวเลขวันหยุดยาว 4-7 ก.ย.นี้ใช้บริการถสาธารณะต่ำกว่าคาดการณ์ 10.63%


กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – คมนาคมสรุปเดินทางและอุบัติเหตุในช่วงวันหยุด4 – 7 ก.ย.นี้ มีผู้โดยสารใช้บริการรถสาธารณะ กว่า 7.96 ล้านคน ต่ำกว่าประมาณการ 10.63% เผยไม่พบผู้โดยสารตกค้าง


นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงคมนาคมได้บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนเพื่ออำนวยความสะดวก รวดเร็ว และดูแลความปลอดภัยการเดินทางของประชาชนทั้งรถส่วนบุคคลและด้วยระบบการขนส่งสาธารณะ รวมถึงการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 ในช่วงวันหยุดต่อเนื่องระหว่างวันที่ 4 – 7 กันยายน 2563 โดยข้อมูลสะสมเมื่อวันที่ 3 – 6 กันยายน 2563 พบว่า มีประชาชนเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ 7,968,080 คน-เที่ยว

ทั้งนี้ต่ำกว่าประมาณการ 10.63% มีปริมาณการจราจรเข้า – ออกกรุงเทพฯ จำนวน 11,215,836 คัน สูงกว่าประมาณการ 36.21% โดยพบว่าส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 10,538,851 คัน ส่วนสถานการณ์การเกิดอุบัติเหตุบนโครงข่ายทางถนนที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงคมนาคม ในวันที่ 3 – 6 กันยายน 2563 พบว่า มีจำนวนอุบัติเหตุเกิดขึ้น 325 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 48 คน บาดเจ็บ 309 คน บริเวณที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่เป็นทางตรง 81.18%


สำหรับสาเหตุสำคัญเกิดจากการขับรถเร็วเกินกำหนด โดยเกิดที่กรุงเทพฯ มากที่สุด จำนวน 32 ครั้ง สำหรับอุบัติเหตุที่มีรถจักรยานยนต์เกี่ยวข้อง จำนวน 92 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 25 คน บาดเจ็บ 115 คน เกิดที่จังหวัดราชบุรีและสุพรรณบุรี มากที่สุดจังหวัดละ 7 ครั้ง นอกจากนี้มีอุบัติเหตุโดยรถโดยสารสารธารณะ จำนวน 3 ครั้ง ทั้งนี้ ไม่มีการเกิดอุบัติเหตุในบริการขนส่งสาธารณะทางน้ำ ทางราง และทางอากาศ

ทั้งนี้ในการเตรียมความพร้อมของระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภท ในวันที่ 3 – 6 กันยายน 2563 สามารถรองรับการเดินทางของประชาชนได้อย่างเพียงพอ ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง นอกจากนี้ในการตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะ ณ จุดตรวจความพร้อม 121 แห่ง จำนวน 50,523 คัน พบข้อบกพร่อง 20 คัน และได้สั่งให้แก้ไขแล้ว ส่วนความพร้อมของท่าเรือ/แพ ณ จุดตรวจความพร้อม 89 แห่ง จำนวน 1,152 ลำ พบมีเรือโดยสารไม่พร้อมใช้งาน จำนวน 1 ลำ และได้สั่งปรับปรุงแล้ว ด้านการปฏิบัติงานของพนักงานขับรถ เจ้าหน้าที่รถไฟ รถไฟฟ้า และผู้ประจำเรือไม่พบว่ามีการดื่มแอลกอฮอล์หรือใช้สารเสพติด แต่อย่างใด

นายชัยวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์การเดินทางและดำเนินการเพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะช่วงสุดท้ายของวันหยุดยาวตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 6 กันยายน ต่อเนื่องถึงวันที่ 7 กันยายน ที่ประชาชนจะเริ่มทยอยเดินทางกลับจากทุกภูมิภาค ซึ่งจะมีปริมาณการเดินทางที่สูงขึ้น โดยเน้นย้ำการบริหารจัดการจราจรเส้นทางบนโครงข่ายคมนาคมจะต้องไม่ติดขัด มีความคล่องตัวสามารถเคลื่อนตัวไปได้อย่างต่อเนื่อง เข้มงวดมาตรการด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน เพื่อป้องกันและลดการเกิดอุบัติเหตุ ลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน


สำหรับการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะทั้งรถโดยสาร รถไฟ/รถไฟฟ้า เรือ เครื่องบิน ประชาชนจะต้องได้รับความสะดวกอย่างเพียงพอ ไม่ล่าช้า ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง ต้องไม่เกิดการเอาเปรียบผู้โดยสารโดยเด็ดขาด และผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด ผู้ประจำรถโดยสาร รถไฟ/รถไฟฟ้า เรือ เครื่องบิน จะต้องมีสภาพร่างกายที่พร้อมให้บริการ และรักษามาตรการด้านสาธารณะสุขเพื่อเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างเข้มงวด นอกจากนี้ขอให้ประชาชนชนเพิ่มความระมัดระวังการขับขี่ยานพาหนะมากขึ้น เนื่องจากหลายพื้นที่มีฝนตกทำให้ถนนลื่น และขอให้ขับรถช้า เปิดไฟหน้า คาดเข็มขัดนิรภัย

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานในสังกัดได้ตั้งศูนย์อำนวยการ เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ให้บริการข้อมูล ประสานการอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางและรับเรื่องข้อร้องเรียนต่าง ๆ ดังนี้ ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม โทร. 1356 ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ โทร. 1584 ศูนย์บัญชาการกรมทางหลวง โทร. 1586 ศูนย์ความปลอดภัยกรมทางหลวงชนบท โทร. 1146 ศูนย์ควบคุมทางพิเศษบูรพาวิถี การทางพิเศษแห่งประเทศไทย โทร. 1543 ศูนย์รัชดา ขสมก. โทร. 1348 และศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าสัมพันธ์ รฟท. โทร. 1690 . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]