ขนส่งฯ เข้ม! รถสาธารณะต้องเพียงพอใช้บริการ 3-7 ก.ย.นี้

กรุงเทพฯ 3  ก.ย. – กรมการขนส่งทางบกสั่งเข้มรถโดยสารสาธารณะช่วงหยุดยาว 3-7 ก.ย. กำชับรถโดยสารต้องเพียงพอทุกเส้นทาง และไม่มีผู้โดยสารตกค้าง พร้อมคุมเข้มมาตรการป้องกันโควิด-19


นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตามที่มติคณะรัฐมนตรีได้พิจารณากำหนดวันหยุดราชการ เพื่อชดเชยวันหยุดเทศกาลสงกรานต์เพิ่มเติม ในวันที่ 4 กันยายนและวันที่ 7 กันยายน 2563 ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่อง 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 4 – 7 กันยายน 2563 นั้น นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มีนโยบายให้กรมการขนส่งทางบกอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะในช่วงเวลาดังกล่าว กรมการขนส่งทางบกจึงได้จัดเตรียมแผนปฏิบัติการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนตั้งแต่ 3 – 7 กันยายน 2563

ทั้งนี้ สำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศจัดเตรียมรถโดยสารประจำทางและรถโดยสารไม่ประจำทางให้เพียงพอกับความต้องการเดินทางของประชาชนโดยต้องไม่มีผู้โดยสารตกค้างในการเดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยว ทั้งเที่ยวไปและเที่ยวกลับ และจัดหารถรับ – ส่งผู้โดยสารระหว่างสถานีขนส่งผู้โดยสารกับหมู่บ้านในท้องถิ่นห่างไกลเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน


ด้านความปลอดภัยในการเดินทาง ดำเนินการตรวจความพร้อมของรถโดยสารทุกคันและพนักงานขับรถโดยสารทุกคนก่อนออกเดินทาง ณ สถานีขนส่งผู้โดยสาร จุดจอดรถ หรือจุดตรวจบนเส้นทางสายหลักทั่วประเทศ รถโดยสารทุกคันต้องมีสภาพมั่นคงแข็งแรง มีอุปกรณ์ส่วนควบและอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยครบถ้วนถูกต้องและอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา อาทิ รถที่มีการติดตั้งระบบ GPS ให้ติดตามการใช้ความเร็วของรถอย่างต่อเนื่อง ระบบเบรก ยาง ล้อ ระบบไฟ อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งาน ติดตั้งเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง มีถังดับเพลิง ค้อนทุบกระจกกรณีเหตุฉุกเฉิน ส่วนพนักงานขับรถ ตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจต้องเป็นศูนย์ (0 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์) ไม่มีอาการอ่อนเพลีย สภาพร่างกายมีความพร้อมสำหรับการปฏิบัติหน้าที่อย่างปลอดภัย ไม่ขับรถเกินชั่วโมงการทำงานที่กฎหมายกำหนด ใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนด เป็นต้น หากพบสภาพรถหรือพนักงานขับรถมีข้อบกพร่องที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในการให้บริการ ดำเนินการลงโทษขั้นสูงสุดและสั่งห้ามให้บริการ โดยผู้ประกอบการต้องจัดหารถคันใหม่และพนักงานขับรถที่มีความพร้อมปฏิบัติหน้าที่แทนทันที

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการให้บริการรถโดยสารสาธารณะทุกประเภททุกเส้นทางสามารถจัดที่นั่งหรือที่ยืนสำหรับผู้โดยสารได้ตามปกติ แต่ต้องไม่เกินจำนวนผู้โดยสารที่กำหนดไว้ในการจดทะเบียนรถ ทั้งนี้ ยังต้องปฏิบัติตามมาตรการทางด้านสาธารณสุขในการคัดกรองและการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง อาทิ พนักงานขับรถและผู้โดยสารทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดการเดินทาง มีมาตรการคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของผู้โดยสารก่อนการเดินทาง หากพบผู้ที่มีอุณหภูมิร่างกายสูงเกินกว่า 37.5 องศาเซลเซียสห้ามเดินทางโดยเด็ดขาด จัดให้มีคิวอาร์โค้ดไทยชนะให้ผู้โดยสารลงทะเบียนเช็คอิน-เช็คเอาท์ทุกครั้งที่ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะและสถานีขนส่งผู้โดยสาร งดให้บริการอาหารบนรถ และขอความร่วมมือผู้โดยสารงดเว้นการรับประทานอาหารบนรถโดยสารสาธารณะ และให้จอดพักรถทุก 2 ชั่วโมง เพื่อระบายอากาศภายในรถโดยสารสาธารณะ และดูแลให้ผู้โดยสารคาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง หากพบผู้โดยสารไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ห้ามออกเดินรถจากสถานีอย่างเด็ดขาด กรณีประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการใช้บริการ พบการฉวยโอกาสจำหน่ายตั๋วโดยสารเกินราคา พบรถโดยสารสาธารณะไม่ปลอดภัยหรือมีพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดอันตราย แจ้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน สายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร