กรุงเทพฯ 2 ก.ย. – คปภ.จับมือภาครัฐ และธุรกิจประกัน ออกกรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19 สำหรับต่างชาติที่จะเข้าไทย
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กำหนดให้ชาวต่างชาติสามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้ โดยต้องทำประกันภัยเพื่อคุ้มครองโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในประเทศไทย ดังนั้น เพื่อรองรับนโยบายภาครัฐ คปภ.จึงหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศ กรมควบคุมโรค สมาคมประกันวินาศภัยไทย และสมาคมประกันชีวิตไทย เพื่อจัดทำกรมธรรม์ประกันภัยรองรับกลุ่มชาวต่างชาติที่สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทย
เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่า ในฐานะนายทะเบียนได้ลงนามในคำสั่งทะเบียน เรื่อง ให้ใช้แบบ ข้อความ และ อัตราเบี้ยประกันภัยของกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยในช่วงโควิด-19 เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2563 โดยจะขายผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ (Online) และเน้นให้ความคุ้มครองกลุ่มชาวต่างชาติที่มีคุณสมบัติเป็นผู้ถือหนังสือที่รับรองว่าเป็นบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้ (Certificate of Entry) มีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่าผู้เดินทางมีสุขภาพเหมาะสมต่อการเดินทาง (Fit to Fly Health Certificate/ Fit to Travel Health Certificate) และมีใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่าผู้เดินทางดังกล่าวไม่มีเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง ซึ่งเริ่มต้นให้ความคุ้มครอง เมื่อผู้เอาประกันภัยเดินทางถึงประเทศไทยและผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองขาเข้าของประเทศไทย
สำหรับความคุ้มครองจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1.กรณีเสียชีวิตจากโควิด-19 บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์/ค่าทดแทน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการงานศพ และค่าใช้จ่ายในการส่งศพหรืออัฐิกลับประเทศ เท่ากับวงเงินเอาประกันภัย 3,200,000 บาท และ 2.การรักษาพยาบาล ตามจำนวนเงินที่ต้องจ่ายจริง แต่ไม่เกินวงเงินเอาประกันภัย 3,200,000 บาท โดยชาวต่างชาติที่มีความประสงค์จะเดินทางเข้าไทย และมีคุณสมบัติตามที่กำหนดต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยตามระยะเวลาคุ้มครองเริ่มต้นตั้งแต่ระยะเวลาไม่เกิน 30 วัน ไปจนถึงสูงสุดไม่เกิน 1 ปี และแบ่งตามความเสี่ยงของประเทศต้นทาง ได้แก่ ประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ มีอัตราเบี้ยประกันภัยระหว่าง 1,600 – 14,400 บาท ประเทศที่มีความเสี่ยงปานกลาง มีอัตราเบี้ยประกันภัยระหว่าง 2,560 – 23,040 บาท และประเทศที่มีความเสี่ยงสูง มีอัตราเบี้ยประกันภัยระหว่าง 4,800 – 43,200 บาท ทั้งนี้ อัตราเบี้ยประกันภัยดังกล่าวได้รวมอากรแสตมป์และภาษีแล้ว
ส่วนการรับประกันภัยเป็นการดำเนินการร่วมกันระหว่างบริษัทประกันวินาศภัย และบริษัทประกันชีวิตในรูปแบบ Co-Insurance 16 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัทชับบ์สามัคคีประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท นวกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) บริษัท แปซิฟิค ครอส ประกันสุขภาพ จำกัด (มหาชน) บริษัท ฟอลคอนประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท มิตรแท้ประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท เอเชียประกันภัย 1950 จำกัด (มหาชน) บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไทยสมุทรประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
“การพัฒนารูปแบบกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด เป็นการนำระบบประกันภัยเข้ามาบริหารความเสี่ยง เพื่อรองรับนโยบายภาครัฐภายใต้มาตรการผ่อนปรนแต่ละระยะ โดยดำรงไว้ซึ่งมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิดและช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศในสถานการณ์ปัจจุบัน” เลขาธิการ คปภ. กล่าว.-สำนักข่าวไทย