ภาคีเกษตรกรหนุน “เฉลิมชัย” ส่งคกก. วัตถุอันตรายทบทวนแบนพาราควอต

กรุงเทพฯ 31 ส.ค. – ภาคีเกษตรกรให้กำลังใจ รมว. เฉลิมชัย ที่ส่งหนังสือถึงคกก. วัตถุอันตรายให้พิจารณาข้อเสนอของเกษตรกรทบทวนการแบนพาราควอต โต้กระทรวงสาธารณสุข หยุดนำเข้าสินค้าต่างประเทศที่มีการใช้พาราควอตเพื่อสุขภาพคนไทย


นายสุกรรณ์ สังข์วรรณะ เลขาธิการสมาพันธ์เกษตรปลอดภัย กล่าวว่า ร่วมกับผู้แทนองค์กรเกษตรกรรวม 19 แห่งที่เป็นผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจพร้อมสนับสนุนสนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งรับข้อร้องเรียนของเกษตรกรเพื่อยื่นต่อคณะกรรมการวัตถุอันตราย (คกก.วอ.) ให้พิจารณายกเลิกแบนพาราควอตและคลอร์ไพรีฟอส รวมทั้งให้กำลังใจนายเฉลิมชัยที่ยึดถือประโยชน์ของเกษตรกรและประเทศชาติเป็นสำคัญ อีกทั้งขณะนี้ตามคำสั่งกรมวิชาการเกษตรนั้น ครบกำหนดระยะเวลาผ่อนปรนที่ให้ส่งคืน 2 สารแก่ร้านค้า หากถูกสารวัตรเกษตร กรมวิชาการเกษตร รวมทั้งผู้ใหญ่บ้านและกำนันจับกุมจะมีความผิดฐานครอบครองวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 (วอ.4) โทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่เกษตรกรไม่มีทางเลือก ยังจำเป็นต้องใช้เนื่องจากสารเคมีอื่นต้องใช้ในปริมาณมากกว่า ราคาสูงกว่า แต่ประสิทธิภาพการกำจัดวัชพืชต่ำกว่าพาราควอต อีกทั้งดูดซึมเข้าสู่พืชประธาน ทำให้เสียหาย ผลผลิตตกต่ำ เป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ไม่มีผู้ใดรับผิดชอบ

นายภมร ศรีประเสริฐ ผู้แทนกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังโคราชกล่าวว่า เกษตรกรผิดหวังในข้าราชการกรมวิชาการเกษตรและนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งไม่มีความรู้เกี่ยวกับการทำการเกษตร อีกทั้งยังเมินเสียงเกษตรกร ที่เกษตรกรออกมาคัดค้านการแบนพาราควอตเพราะเดือดร้อน ไม่ใช่ได้รับผลประโยชน์จากบริษัทผลิตสารเคมีตามที่เอ็นจีโอกล่าวหา ทั้งนี้เมื่อห้ามเกษตรกรใช้สารพาราควอต แต่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรฯ กลับกำหนดให้นำเข้าวัตถุดิบที่ปนเปื้อนพาราควอตได้ เป็นการปฏิบัติ 2 มาตรฐานที่ทำร้ายเกษตรกรไทยอย่างรุนแรง


นายมนัส พุทธรัตน์ ประธานสมาพันธ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทยกล่าวถึงที่นางสาวมนัญญาโพสต์เฟซบุ๊คว่า จะเอาสารพิษกลับมาอีกทำไม จึงขอถามท่านว่า หากใช้ไม่ถูกต้อง สารเคมีย่อมทำให้เกิดพิษทั้งสิ้น ส่วนที่นางสาวมนัญญาสนับสนุนการใช้สารชีวภัณฑ์ ที่ผ่านมากรมวิชาการเกษตรร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) บุกตรวจยึดและจับกุมแหล่งผลิต-จำหน่ายสารชีวภัณฑ์พบว่า มีสารพาราควอตและไกลโฟเซตปนอยู่ทั้งสิ้น โดยกรมวิชาการเกษตรยืนยันมาตลอดว่า ยังไม่มีสารชีวภัณฑ์ที่สามารถกำจัดวัชพืชได้ ส่วนที่ระบุว่า กรมวิชาการเกษตรแนะนำให้ใช้สารกลูโฟซิเนตแทนนั้น สารนี้ในสหภาพยุโรปยกเลิกใช้ไปแล้วเนื่องจากความเป็นพิษสูง หากไม่ทบทวนการแบนพาราควอต ก็ขอให้แบนกลูโฟซิเนตและไกลโฟเซตด้วย นอกจากนี้ขอให้นางสาวมนัญญาซึ่งเป็นรมช. กระทรวงเกษตรฯ หารือกับกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภคและองค์กรต่างๆ ถ้าห่วงใยสุขภาพคนไทยจริง ต้องไม่นำเข้าสินค้าและวัตถุดิบทางการเกษตรจากประเทศที่ใช้สารพาราควอตและคลอร์ไพรีฟอสทันที ต้องไม่มีค่าตกตกค้างและไม่ผ่อนปรนการนำเข้าจนถึงเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2564 เพราะไม่เป็นธรรมต่อเกษตรกร

นอกจากนี้สมาคมนักวิชาการอ้อยและน้ำตาลแสดงรายงานจากการเก็บตัวอย่างวัตถุดิบและสินค้าที่มีการใช้พาราควอตในประเทศ ซึ่งตรวจไม่พบสารพาราควอตตกค้าง ดังนั้นคำกล่าวอ้างของนางสาวมนัญญาและเอ็นจีโอที่ว่า ห่วงใยสุขภาพคนไทยและผู้บริโภคจึงฟังไม่ขึ้น เป็นเพียงคำกล่าวอ้างเพื่อเอื้อนายทุน

“19 องค์กรเกษตรกร ขอสนับสนุนและสรรเสริญความกล้าหาญของรมว. เฉลิมชัยที่รับทราบความเดือดร้อนของเกษตรกรแล้ว ได้ส่งเรื่องถึงคณะกรรมการวัตถุอันตรายให้ทบทวนการยกเลิกสารพาราควอตและคลอร์ไพรีฟอส ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรรอดจากการถูกจำคุกสูงสุด 10 ปีและปรับ 1 ล้านบาท โดยเกษตรกรกว่า 10 ล้านคนทั่วแผ่นดินจะจดจำวีรกรรมที่นายเฉลิมชัยทำเพื่อเกษตรกรและประเทศชาติไปตลอด” นายสุกรรณ์กล่าว


ด้านนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ส่งหนังสือไปยังคกก. วอ. แล้ว ตามที่ได้รับทราบความเดือดร้อนของเกษตรกร รวมทั้งที่นักวิชาการส่งข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มาให้ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามปกติ เมื่อมาผู้ยื่นหนังสือขอให้ส่งข้อเรียกร้องไปยังคกก.วอ. ก็ดำเนินการตามนั้น อีกทั้งพร้อมรับข้อเรียกร้องของทุกกลุ่มที่ต้องการส่งความเห็นไปให้คกก.วอ. ไม่ว่า ซึ่งการพิจารณาเป็นอำนาจหน้าที่ของคกก.วอ. .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”