กรุงเทพฯ 30 ส.ค. – หวยแพง ผู้ค้า-ผู้ซื้อบ่นอุบ ไม่เอาสลากออนไลน์ หวังให้แก้ปัญหายี่ปั๊วโก่งราคา พยุงเศรษฐกิจให้ดีขึ้นมากกว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลแยกคอกวัว กรุงเทพฯ ก่อนออกรางวัลงวดวันที่ 1 กันยายน 2563 พบว่า มีบรรดาพ่อแม่ค้านำล็อตเตอรี่มาตั้งแผงวางขายจำนวนมาก แต่บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา มีผู้ซื้อค่อนข้างบางตา ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าบางส่วนให้เหตุผลว่า ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ลูกค้าจะน้อยกว่าปกติอยู่แล้ว ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด – 19 ทำให้ผู้ซื้อมาเลือกซื้อสลากน้อยลง
ขณะที่ราคาสลากงวดนี้เริ่มต้นขายใบละ 80-150 บาท ชุด 5 ใบ ราคา 490 – 600 บาท ชุด 10 ใบ ราคา 1,150 – 1,500 บาท โดยพ่อค้าแม่ค้าให้เหตุผลว่าต้นทุนที่รับมาในงวดนี้ค่อนข้างสูงประมาณใบละ 90 บาท จึงต้องขายต่อราคาสูง ซึ่งขณะนี้เหลือสลากที่ขายไม่ออกจำนวนมาก โดยวันที่ 1 กันยายนนี้อาจจะต้องปรับลดราคาลง เพื่อขายออกให้ได้มากที่สุด แม้ต้องขาดทุนไปเกือบครึ่งก็ยอม เพราะกำลังผู้ซื้อมีไม่มาก แม้จะผ่อนคลายล็อกดาวน์สถานการณ์โควิด-19 แต่ตลาดการค้าขายลอตเตอรี่ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้เร็ว ๆ นี้
สำหรับกรณีที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลมีแนวทางการแก้ไขการจัดสรรโควตาสลากและการแก้ไขปัญหาการขายสลากเกินราคาด้วยการจำหน่ายสลากใบในระบบออนไลน์และออกผลิตภัณฑ์ใหม่ควบคู่กันไปนั้น ผู้ค้าสลากมองว่าไม่เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว เพราะเชื่อว่ากระบวนการจะมีความซับซ้อน และยุ่งยาก กระทบกับยอดขายสลากใบ ซึ่งผู้สูงวัยอาจจะไม่เข้าใจและไม่สามารถเข้าถึงกับระบบดังกล่าว
ขณะที่ผู้ซื้อเห็นว่าการจำหน่ายสลากใบในระบบออนไลน์ไม่สามารถแก้ปัญหาสลากเกินราคาได้จริงและเป็นการมอมเมาประชาชน ทำให้การซื้อขายง่ายยิ่งขึ้น ช่วยจูงใจให้คนซื้อสลากง่ายขึ้น มากกว่าการมาเดินเลือกซื้อตามแผงค้าสลากทั่วไป ขณะที่การจัดสรรรางวัลของสลากใบในระบบออนไลน์นั้น หากมีการสะสมรางวัลแจ็กพอตแบบต่างประเทศก็จะยิ่งทำให้คนทุ่มซื้อสลาก เพื่อหวังรางวัลใหญ่มากขึ้น เป็นการมอมเมาประชาชน โดยปัญหาสำคัญของสลากใบปัจจุบัน คือ ยี่ปั๊วหรือพ่อค้าคนกลางที่โก่งราคาสลาก ทำให้ผู้ค้ารายย่อยต้องนำมาจำหน่ายราคาสูง ซึ่งรัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องต้องแก้ปัญหาตรงจุดนี้ให้ได้ก่อน ขณะเดียวกันต้องเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ดีขึ้น เพราะถ้าเศรษฐกิจดีขึ้น คนมีช่องทางทำมาหากิน คนมีงานทำ ก็ไม่ต้องพึ่งพาการเสี่ยงโชค หรือหันมาขายลอตเตอรี่.– สำนักข่าวไทย