“เฉลิมชัย” แจงส่งหนังสือถึง คกก.วัตถุอันตรายตามข้อเสนอของเกษตรกร

กรุงเทพฯ  30 ส.ค. – “เฉลิมชัย” ระบุส่งหนังสือถึงคณะกรรมการวัตถุอันตรายตามความเดือดร้อนของเกษตรกร ย้ำเข้าใจทุกฝ่าย ขอให้นำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องเป็นจริง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดในการบริโภค ด้าน “มนัญญา” โพสต์เฟซบุ๊ค ตั้งคำถามจะเอาสารพิษอันตรายกลับมาทำไม

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงเตรียมส่งหนังสือถึงคณะกรรมการวัตถุอันตราย (คกก.วอ.) ตามที่เกษตรกรเข้าพบและแจ้งความเดือดร้อนเกี่ยวกับการยกเลิกสารพาราควอต โดยจะแนบข้อมูลของเกษตรกรไป กระทรวงเกษตรฯ เป็นหน่วยงานปฏิบัติไม่ได้มีความเห็นใด ๆ การพิจารณาเป็นอำนาจหน้าที่ของ คกก.วอ. ยืนยันว่าเข้าใจทั้งเกษตรกรที่เดือดร้อนและห่วงใยความปลอดภัยของผู้บริโภค อีกทั้งดำเนินมาตรการส่งเสริมการผลิตอาหารและสินค้าเกษตรปลอดภัยอยู่แล้ว

นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า ในฐานะ รมว.เกษตรฯ ต้องรับฟังผลกระทบที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับภาคการเกษตร เมื่อเกษตรกรและนักวิชาการมานำเสนอเกี่ยวกับความเดือดร้อนและข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องต้องหาแนวทางแก้ปัญหาให้ หากใครมีความเห็นเป็นอย่างอื่นให้เสนอมาได้จะส่งให้ คกก.วอ.เหมือนกันทั้งหมด แต่ข้อมูลที่เสนอขอให้เป็นข้อมูลจริงและพิสูจน์ได้

“การรับเรื่องจากเกษตรกรแล้วส่งให้ คกก.วอ.พิจารณาเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ใครมาอยู่ในตำแหน่งนี้ ต้องทำเช่นนี้ทุกคน ยืนยันต้องการให้เกษตรกรประกอบอาชีพได้และผลิตอาหารปลอดภัยแก่ผู้บริโภค” นายเฉลิมชัย กล่าว

ด้านนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ควานนี้ (29 ส.ค.) ว่า “คุณไม่หยุด ชั้นก็ไม่หยุด ตราบใดที่ยังเห็นผู้บริโภคมีอันตรายอยู่ เราก็ไม่หยุด จะเอาสารพิษอันตรายกลับมาเพื่ออะไรคะ” โดยเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (ไทยแพน) เข้าพบนางสางมนัญญา เพื่อนำเสนอข้อมูลว่ามาตรการจำกัดการใช้ไกลโฟเซตของกระทรวงเกษตรฯ ไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งนางสาวมนัญญา สั่งให้กรมวิชาการเกษตรไปปรับปรุง พร้อมระบุว่าได้เสนอ คกก.วอ.ให้แบนไกลโฟเซตเช่นเดียวกับพาราคอวตและคลอร์ไพริฟอสมาตลอด

ต่อมาไบโอไทยได้โพสต์ข้อความโดยอ้างถึงข้อความในเฟซบุ๊ค มนัญญา ไทยเศรษฐ์ว่าเป็นคำประกาศจุดยืนเกี่ยวกับการแบนสารเคมีอันตรายร้ายแรงและการตั้งคำถามไปยังนายเฉลิมชัย หลังจากสั่งการให้กระทรวงเกษตรเสนอให้มีการทบทวนการแบนพาราควอต ซึ่งมีบริษัท ซินเจนทา บรรษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์และครอบครองตลาดส่วนใหญ่

อีกทั้งระบุว่านางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ ในฐานะ รมช.เกษตรฯ ที่กำกับดูแลกรมวิชาการเกษตร  มีบทบาทในการขับเคลื่อนการยกเลิกสารพิษอย่างโดดเด่นมาโดยตลอดนับตั้งแต่รับตำแหน่งทางการเมือง โดยร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผลักดันให้ คกก.วอ.มีมติแบน 3 สาร แต่ต่อมาเมื่อนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย ได้กลับมติการแบน 3 สาร มาเป็นการแบนเฉพาะพาราควอตและคลอร์ไพริฟอส แต่ไม่แบนไกลโฟเซต ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2562

นอกจากนี้ ไบโอไทยยังนำเสนอผลสำรวจของนิด้าโพลและแม่โจ้โพล ซึ่งปรากฏว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่สนับสนุนการแบน 3 สาร พร้อมระบุว่านายเฉลิมชัย ไม่เห็นด้วยกับการแบนพาราควอตมาแต่ต้นและฉวยโอกาสนี้เสนอให้ยกเลิกการแบน ซึ่งสิ่งที่ควรทำ คือ หามาตรการและแนวทางสนับสนุน เพื่อให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนจากการใช้สารเคมีอันตรายร้ายแรงไปสู่วิธีการที่ปลอดภัยกว่า.-สำนักข่าวไทย