ไฟแนนซ์เข้มสินเชื่อรถเล็กยอดขายดิ่ง

กรุงเทพฯ19 ส.ค. – ศูนย์วิจัยอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ ระบุ รถยนต์ขนาดเล็กเครื่องยนต์ต่ำกว่า 1,500 ซีซี. ยอดขายดิ่งลง 48% แม้ความต้องการเพิ่มขึ้นเพราะเลี่ยงเดินทางด้วยรถยนต์สาธารณะ แต่ไฟแนนซ์ยังเข้มพิจารณาสินเชื่อ



ศูนย์วิจัยอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ สถาบันยานยนต์ เผย สถานการณ์ตลาดรถยนต์ เดือนมิ.ย.63 ว่า ตลาดรถยนต์ในประเทศ มีขนาด ลดลง 33% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และเมื่อพิจารณารายผลิตภัณฑ์พบว่าปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ลดลงทุกผลิตภัณฑ์ โดย เฉพาะรถยนต์นั่งขนาดต่ำกว่า 1,500 ซีซี มีปริมาณการจำหน่ายลดลงมากที่สุด 48% ถึงแม้ว่าความต้องการของรถยนต์ในกลุ่มนี้จะเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเป็นตัวเลือกให้แก่ผู้บริโภคที่ต้องการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวแทนการเดินทางด้วยรถยนต์สาธารณะเพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อไวรัส โควิด-19 แต่ผู้บริโภคในกลุ่มนี้เป็นกลุ่มผู้ที่มีรายได้ไม่มากนัก กอปรกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ส่งผลให้สถาบันการณ์เงินมีความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อรถยนต์มากขึ้น โดยเฉพาะรถยนต์นั่งขนาดต่ำกว่า 1,500 ซีซี
ในช่วง 6 เดือนแรกปี 2563 คือ ช่วงเดือน ม.ค.-มิ.ย. ประเทศไทยมีปริมาณการผลิตรถยนต์สะสม 606,132 คัน จำหน่ายสะสม 328,640 คัน และส่งออกรถยนต์สะสม 350,550 คัน ลดลง 43% 37% และ 37% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ตามลำดับ ส่วนรถจักรยานยนต์ มีปริมาณการผลิตสะสม 682,515 คัน จำหน่ายสะสม 731,979 คัน และส่งออกสะสม 160,956 คัน ลดลง 30% 18% และ 15% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ตามลำดับ
การผลิตรถยนต์ ในเดือนมิถุนายน 2563 ประเทศไทยมีปริมาณการผลิตรถยนต์จำนวน 71,704 คัน ลดลง 59% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวของการผลิตรถยนต์ของไทย เมื่อพิจารณารายผลิตภัณฑ์พบว่าปริมาณการผลิตรถยนต์ลดลงในทุกผลิตภัณฑ์ รถยนต์นั่งขนาดต่ำกว่า 1,500 ซีซี ลดลงต่ำที่สุดจากตลาดในประเทศเป็นสำคัญ
ในส่วนของปริมาณรถยนต์จดทะเบียนใหม่ (ป้ายแดง) ของรถ xEV ลดลง 26% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เป็นผลจากรถ HEV และ PHEV ที่มีจำนวน 1,647 คัน ลดลง 29% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ในขณะที่ รถ BEV ยังคงมีปริมาณการจดทะเบียนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องที่ 89 คัน เพิ่มขึ้น 107% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ตลาดส่งออกรถยนต์ ลดลง 49% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จากการส่งออกรถยนต์ลดลงไปยังทุกตลาด โดยตลาดส่งออก 3 อันดับแรกของไทย ได้แก่ โอเชียเนีย สัดส่วน 33% เอเชีย 27% และตะวันออกกลาง 21% มีปริมาณการส่งออกลดลง 33% 56% และ 14% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าตามลำดับ ทั้งนี้ ปริมาณการส่งออกรถยนต์ลดลงทุกประเภทในทุกตลาด ยกเว้นการส่งออกรถ PPV ไปยัง โอเชียเนียและตะวันออกกลาง ที่เพิ่มขึ้น 17% และ 9% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ส่วนการผลิตรถจักรยานยนต์ เดือนมิ.ย.63 ไทยผลิตรถจักรยานยนต์จำนวน 75,819 คัน ลดลง 52% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เนื่องจากการชะลอตัวของตลาดในประเทศและตลาดส่งออก และผลิตรถจักรยานยนต์ลดลงในทุกประเภท หากพิจารณารายผลิตภัณฑ์พบว่าการผลิตรถจักรยานยนต์ลดลงในทุกประเภทยกเว้นรถจักรยานยนต์ขนาด 150 – 399 ซีซี ที่มีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ในขณะที่รถ Commuter มีปริมาณการผลิตลดลงมากที่สุด 57% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า รองลงมาคือ รถจักรยานยนต์ขนาดมากกว่า 400 ซีซี และขนาดต่ำกว่า 150 ซีซี มีปริมาณการผลิตลดลง 51% และ 38% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ตามลำดับ ในขณะรถจักรยานยนต์ขนาด 150 – 399 ซีซี มีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้น 14% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ตามลำดับ

ตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัวที่ดีขึ้น โดยในเดือนมิถุนายนปรับตัวดีขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงสองเดือนก่อนหน้า แต่ยังลดลง 17% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ลดลงทุกประเภท ยกเว้นรถจักรยานยนต์ขนาด 251 – 399 ซีซี ที่เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า รวมทั้งปริมาณจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ใหม่ (ป้ายแดง) ประเภท HEV ที่ลดลง 47% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เนื่องจากมีจำนวนรุ่นจำกัดและไม่มีการเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ ในขณะที่ปริมาณจดทะเบียนใหม่ (ป้ายแดง) ของรถจักรยานยนต์ BEV เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมีจำนวน 207 คันเพิ่มขึ้นจาก 40 คัน ในปีก่อนหน้า จากการที่เริ่มมีผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารายใหม่เปิดตัวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ ในขณะที่ตลาดส่งออกรถจักรยานยนต์ลดลง17% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จากการส่งออกรถจักรยานยนต์ขนาด 50 – 150 ซีซี ไปยังเวียดนาม และเมียนมาร์ลดลง . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร