กองทุนฟื้นฟูฯ เดินหน้ามอบโฉนดคืนเกษตรกรภาคอีสาน 200 ราย

อุดรธานี  17 ส.ค. – กองทุนฟื้นฟูฯ  เดินหน้ามอบโฉนดคืนเกษตรกรภาคอีสาน 200 ราย เริ่มฟื้นฟูอาชีพเกษตรกร  ผลักดันนโยบายกองทุนฟื้นฟูฯ ผลิต พาณิชย์ตลาด เพื่อสร้างเซลล์แมนจังหวัดหาตลาดให้เกษตรกร


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร  กล่าวระหว่างการมอบมอบโฉนดที่ดินทำกินให้กับเกษตรกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ว่า การส่งมอบหลักประกันคืนแก่เกษตรกรสมาชิกจาก 17 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  205 ราย 268 แปลง ที่ได้รับการส่งมอบหลักประกันคืน คิดเป็นเนื้อที่ 2,188 ไร่  และการมอบเช็คชำระหนี้แทนเกษตรกรสมาชิก 16 ราย ให้กับสหกรณ์การเกษตรเมืองอุดรธานี จำกัด และสห กรณ์การเกษตรอีกหลายจังหวัด รวมเงินทั้งสิ้น 10 ล้านบาท เพื่อหวังลดภาระหนี้ให้เกษตรกร พร้อมขยายการช่วยเหลือให้ครอบคลุมเกษตรกรที่มีปัญหาถูกยึดโฉนด

“กองทุนฟื้นฟูฯ ซื้อหนี้และหลักประกัน นำมาให้เกษตรกรผ่อนชำระกับกองทุนฟื้นฟูแทน เพื่อให้โฉนดที่ดินกลับมาอยู่ในเมืองของชาวบ้านเหมือนเดิม เมื่อได้ที่ดินคืนอย่าปล่อยให้ที่ดินหลุดไปอีก วนไปมา กองทุนฟื้นฟูฯ จะไม่มีเงินเข้าไปช่วยเหลือซ้ำอีก เพื่อส่งต่อให้ทายาท หลังจากนี้จะต้องเข้าสู่ขั้นตอนการฟื้นฟูอาชีพ การทำมาหากิน ทำเกษตรได้อย่างยั่งยืน โดยสำรองเงินเริ่มต้น 32,000 กลุ่มมีศักยภาพในการฟื้นฟู เตรียมเงินจัดสรรให้กลุ่มละ 30,000 บาท”  นายจุรินทร์  กล่าว 


หลังจากบอร์ดกองทุนฟื้นฟูฯ เห็นชอบการขึ้นทะเบียนหนี้เพื่อจัดการหนี้ให้กับเกษตรกรสมาชิก 17,294  ราย จำนวน 65,547 สัญญา จำนวน 9,693  ล้านบาท และเห็นชอบให้ขยายวงเงินการชำระหนี้แทน จากเดิมรายละไม่เกิน 2.5  ล้านบาท ขยายเป็นรายละไม่เกิน 5 ล้านบาท  อนุมัติชำระหนี้แทนเกษตรกร 452 ราย 648  สัญญา จำนวน 332  ล้านบาท นอกจากนี้ ยังเร่งแก้ไขปัญหาหนี้ดำเนินคดี ซึ่งเป็นหนี้เร่งด่วน ด้วยการชำระหนี้แทนเกษตรกรในชั้นบังคับคดีขายทอดตลาดให้กับสำนักงานบังคับคดี  

 นายสไกร พิมพ์บึง  รักษาการเลขาธิการกองทุนฟื้นฟูฯ  (กฟก.)  กล่าวว่า ปัจจุบันกองทุนฟื้นฟูฯ โอนกรรมสิทธิ์หลักประกันคืนให้กับเกษตรกร ซึ่งผ่อนชำระและปิดบัญชีแล้ว  5,123  ราย 7,446  แปลง เนื้อที่  55,734  ไร่  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ส่งมอบหลักประกันคืนแก่เกษตรกรไปแล้ว 1,000 ราย  1,333 แปลง เนื้อที่ 11,773 ไร่ เพื่อหวังให้สมาชิกได้มีที่ดินทำกินส่งต่อไปยังรุ่นลูกหลาน และยังต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูอาชีพเพิ่มเติม 

นายจุรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงพาณิชย์ต้องการผลักดันนโยบาย “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” เพื่อให้พาณิชย์จังหวัดเป็นเซลล์แมนจังหวัด การร่วมจับคู่ธุรกิจ การสนับสนุนตลาดต้องชม ตลาดเกษตรอินทรีย์ ร้านโชว์ห่วย  ส่งเสริมการค้าออนไลน์กระจายสินค้าไปต่างประเทศ เพื่อช่วยหาตลาดให้กับเกษตรกร .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง