กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ไต่สวนฟื้นฟูการบินไทยเดือด! ทนายเจ้าหนี้ซักค้านคุณสมบัติบริษัทอีวายคอร์ปอเรทฯ ที่การบินไทยตั้งเป็นผู้ร่วมทำแผน ประเด็นอีวายฯ มีทุนจดทะเบียน 5 ล้าน และประสบการณ์เพียงพอฟื้นฟูกิจการแสนล้านได้หรือไม่ ขณะที่ “ชาญศิลป์” ยืนยันจัดจ้างบริษัทฯ ตามระเบียบการบินไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าศาลล้มละลายกลาง ถนนแจ้งวัฒนะ ได้มีการไต่สวนวันแรก เรื่องขอฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการการบินไทย และตัวแทนบริษัท อีวายคอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด เป็นพยานขออนุมัติแผนฟื้นฟูกิจการฯ และผู้จัดทำแผน ซึ่งมีผู้คัดค้าน คือ เจ้าหนี้ 16 ราย
นายชาญศิลป์ เปิดเผยภายหลังการไต่สวนว่า ยังมั่นใจว่าศาลจะพิจารณาให้การบินไทยได้รับการฟื้นฟูกิจการฯ และแต่งตั้งคณะผู้ทำแผนตามที่การบินไทยเสนอ เนื่องจากมีเจ้าหนี้มากว่า 100 ราย ซึ่งมีมูลหนี้มากกว่าแสนล้านทำหนังสือให้การสนับสนุนการบินไทย และบริษัท อีวายคอร์ปอเรทฯ เป็นผู้ร่วมจัดทำแผน
ส่วนบริษัท อีวายคอร์ปอเรทฯ ถูกซักค้านเรื่องของคุณสมบัติและการว่าจ้าง นายชาญศิลป์ ยืนยันว่าการจัดจ้างบริษัทฯ เป็นไปตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างของการบินไทย และมีการขึ้นทะเบียนเป็นบริษัทดำเนินการฟื้นฟูกิจการฯ ตามข้อกำหนดของศาลล้มละลายกลางอย่างถูกต้อง และพร้อมยืนยันว่าอีวายคอร์ปอเรทฯ เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกที่มีเครือข่ายและมีพาร์ทเนอร์ประกอบธุรกิจในไทย
ส่วนประเด็นที่ระบุว่าบริษัทไม่มีความชำนาญด้านการบริหารธุรกิจการบินในการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการฯ เนื่องจากประเทศไทยไม่เคยมีธุรกิจสายการบินต้องเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการฯ แต่ยืนยันว่ามีผู้เชี่ยวชาญทุกด้าน รวมถึงด้านการบินเข้ามาอยู่ในขณะจัดทำแผนฟื้นฟูนี้อยู่แล้ว
ขั้นตอนหลังจากนี้ เนื่องจากการบินไทยมีเจ้าหนี้ทั้งรายใหญ่และรายย่อยจำนวนมากศาลได้นัดหมายให้มีการไต่สวนเพิ่มเติมวันที่ 20 และ 25 สิงหาคมนี้ หลังจากนั้นหากศาลมีคำสั่งตัดสินใจการบินไทยเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการและแต่งตั้งผู้ทำแผน และมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาจะมีเวลา 1 เดือนให้เจ้าหนี้แจ้งมูลหนี้ผ่านระบบออนไลน์ของกรมบังคับคดี และจากนั้น 14 วันจะให้เจ้าหนี้แต่ละกลุ่มร่วมประเมินแผนฟื้นฟูกิจการฯ ระยะแรกด้วยให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้บริหารการบินไทยไม่ว่าในอนาคตคำวินิจฉัยของศาลจะออกมาเป็นอย่างไร การบินไทยก็น้อมรับคำตัดสินของศาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการไต่สวนตลอดวันนี้ทนายความเจ้าหนี้ได้มีการสอบถามพยานในประเด็นคุณสมบัติของบริษัท อีวายคอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด ว่ามีความเหมาะสมที่จะเป็นบริษัทที่ปรึกษาหรือไม่ เนื่องจากไม่มีประสบการณ์ทำแผนฟื้นฟูกิจการฯ ธุรกิจการบินและไม่เคยบริหารงานธุรกิจระดับแสนล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้เคยดูแลแผนฟื้นฟูกิจการฯ ให้กับบริษัท สหฟาร์ม จำกัด แต่ก็ชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ได้เพียงบางส่วนเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นคนละบริษัทกับบริษัท อีวาย คอร์ปอเรท เซอร์วิสเซส ที่เป็นผู้ตรวจสอบบัญชี รวมถึงสอบถามถึงค่าใช้จ่ายในการจ้างบริษัท อีวายคอร์ปอเรทฯ เป็นจำนวนเงินเท่าใด และมีการสอบถามในประเด็นที่หากไม่สามารถดำเนินการได้ตามแผนฟื้นฟูฯ จะมีการขอขยายระยะเวลาอีกหรือไม่
นายชาญศิลป์ ในฐานะพยานปากแรก กล่าวว่า ในส่วนของการให้บริษัท อีวายคอร์ปอเรทฯ มีคณะทำงาน และการตรวจสอบบริษัทฯ ก่อนที่จะให้เข้ามาร่วมดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการฯ ซึ่งมีความโปร่งใส และเห็นว่าบริษัทฯมีประสบการณ์การดำเนินการแผนฟื้นฟูกิจการฯ เพียงแต่ไม่ได้อยู่ในธุรกิจการบิน และยอมรับ เพราะเป็นเรื่องที่จัดจ้างบริษัทเข้ามาก่อนที่ตนจะเข้ามาเป็นรักษาการดีดีการบินไทย
ทั้งนี้ นายชาญศิลป์ ยอมรับว่า ในประเด็นที่เจ้าหนี้สอบถามว่าหากไม่สามารถดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการฯ ภายในระยะเวลาที่กำหนด ก็จะขอขยายเวลาในการฟื้นฟูกิจการต่อไปอีก หากศาลมีคำสั่งให้สามารถต่อระยะเวลาได้
ด้านนายปิยสวัสดิ์ มีรายชื่อเป็นผู้บริหารแผนในฐานะพยานปากที่ 2 ยอมรับว่าการว่าจ้างบริษัท อีวายคอร์ปอเรทฯ เข้ามาร่วมดำเนินการ ได้รับรายงานการคัดเลือกบริษัทอีวายคอร์ปอเรทฯ เข้ามาเป็นคณะผู้ทำแผน ส่วนกรณีมีการตั้งคำถามว่าบริษัทอีวายคอร์ปอเรทฯ เป็นคนละบริษัทอีวายที่เป็นผู้ตรวจสอบบัญชี และมีเครือข่ายระดับโลก ยอมรับว่าทราบข้อมูลนี้ก่อน ทั้งนี้ ยอมรับว่าได้มีการจ่ายเงินว่าจ้างบริษัทอีวายคอร์ปอเรทฯ งวดแรกจำนวน 22 ล้านบาท และหลังจากนั้นชำระเดือน 15 ล้านบาท จนกว่าศาลจะมีคำสั่งพิจารณาให้การบินไทยดำเนินการแผนฟูกิจการฯ
เบื้องต้นศาลยังไม่ได้มีการพิจาณาให้การบินไทยควรได้รับการฟื้นฟูกิจการหรือไม่ และควรแต่งตั้งคณะผู้ทำแผนตามที่การบินไทยเสนอหรือไม่ โดยได้มีการนัดไต่สวนพยานฝ่ายผู้ร้องเพิ่มวันที่ 20 สิงหาคม 2563 เวลา 09.00 น. และนัดไต่สวนพยานผู้คัดค้านในวันที่ 25 สิงหาคม 2563 หากพยานผู้คัดค้านสามารถมาให้การไต่สวนวันที่ 20 สิงหาคม 2563 ได้ครบถ้วน ก็จะยกเลิกวันที่ 25 สิงหาคม 2563 ส่วนวันพิพากษาจะแจ้งให้ทราบอีกหลังภายหลังที่มีการไต่สวนเสร็จสิ้นตามกระบวนการ.- สำนักข่าวไทย