“อธิรัฐ” ทดสอบเรือไฟฟ้าในคลองแสนแสบ หนุนใช้พลังงานสะอาด

กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงคมนาคม  ทดสอบเรือไฟฟ้าในคลองแสนแสบ  หนุนใช้พลังงานสะอาด พร้อมยืนยันได้มอบหมายให้ทนายแจ้งความ กรณีถูกกล่าวหาเรียกรับผลประโยชน์  และปฏิเสธชี้แจงเพิ่มเติมในขณะนี้

นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยนายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า นำคณะเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า ที่ปรึกษาโครงการมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา ผู้บริหาร บริษัท เบต้า เอ็นเนอร์ยี่โซลูชั่น จำกัด และบริษัทครอบครัวขนส่ง (2002) จำกัด ร่วมทดสอบเรือไฟฟ้า “โครงการจัดหาระบบเรือโดยสารไฟฟ้าต้นแบบในคลองแสนแสบ เพื่อประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” ณ ท่าเรือผ่านฟ้าลีลาศ

นายอธิรัฐ เปิดเผยว่า จากการทดสอบเรือโดยสารไฟฟ้าต้นแบบในคลองแสนแสบ กรมเจ้าท่าได้ทดสอบการเดินเรือไฟฟ้า คลองแสนแสบเสมือนจริง เส้นทางเดินเรือ จากท่าเรือผ่านฟ้าลีลาศ ถึง ท่าเรือ Center pier (ประตูน้ำ) ระยะทาง 4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 20 นาที (บรรทุกคนโดยสารได้ 100 คน และ คนประจำเรือ 3 คน )โดยได้ทดลองวิ่ง และรับผู้โดยสารเพื่อทดสอบระบบการควบคุมเรือ และประสิทธิภาพของเรือ จากการทดสอบเรือไฟฟ้าดังกล่าวสามารถทำความเร็วของเรือได้ 22 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งเรือสามารถทำความเร็วได้ดี และไม่มีมลพิษทางเสียง เบื้องต้นเรือไฟฟ้าต้นแบบสามารถเดินทางได้ 60 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง อย่างไรก็ตาม จะมีการทดสอบ และปรับปรุงเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยในการเดินเรือของกรมเจ้าท่า

นอกจากนี้ รมช.คมนาคมได้สั่งการให้ กรมเจ้าท่า ร่วมกับ กทม.ในการแก้ปัญหาน้ำเสีย แบ่งเป็นแผนระยะสั้น ส่งเรือจำนวน 18 ลำ พร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมปฏิบัติงานในการจัดเก็บขยะตลอดแนวคลองแสนแสบทุกวัน อย่างน้อยวันละ 2 เที่ยว แผนระยะกลาง วางแผนดำเนินการขุดลอกดินในคลองแสนแสบ และระยะยาว วางระบบรวบรวมท่อน้ำทิ้งตามแนวริมคลอง ไม่ให้น้ำเสียลงคลองแสนแสบ รวมทั้งในส่วนของกรมเจ้าท่าที่ได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว คือ การติดตั้ง GPS เรือโดยสารทุกลำ และเตรียมดำเนินการติดตั้งกล้อง CCTV ทั้ง 28 ท่าเทียบเรือ จำนวน 188 ตัว รวมทั้งกล้องตรวจจับความเร็ว 8 ตัว เพื่อส่งข้อมูลไปยังศูนย์จอมอนิเตอร์ที่กรมเจ้าท่า และในการนี้ท่านรัฐมนตรีช่วยฯ พร้อมคณะได้ลงเรือไฟฟ้าต้นแบบเรือโดยสารคลองแสนแสบ เพื่อทดสอบเสมือนจริง จากท่าเรือผ่านฟ้าลีลาศไปยังท่าเรือประตูน้ำ รวมระยะทาง 4 ก.ม. ซึ่งผลเป็นที่น่าพอใจ ไม่สร้างมลพิษ ลดมลภาวะทางเสียง ลดคลื่นเรือกระทบฝั่งบ้านเรือนประชาชนได้เป็นอย่างดี ตั้งเป้าให้บริการผู้โดยสารภายในปี 2564 พร้อมกำชับให้คงมาตรการด้านสาธารณสุข โดยผู้โดยสารต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ระหว่างที่ใช้บริการ ตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าไปในบริเวณท่าเทียบเรือ ทำความสะอาดอุปกรณ์และมือ ด้วยเจลแอลกอฮอล์ และประชาสัมพันธ์การปฏิบัติให้ประชาชนตลอดเวลาที่ใช้บริการและรายงานผลการปฎิบัติให้ทราบเป็นระยะ

ทั้งนี้ เรือไฟฟ้าต้นแบบ เป็นนวัตกรรมที่ช่วยลดมลพิษและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเปลี่ยนการใช้เครื่องยนต์ที่สันดาปโดยน้ำมัน เปลี่ยนรูปแบบมาใช้พลังงานไฟฟ้าแทน และตัวเรือผลิตจากอลูมิเนียม โดยจะใช้เวลาทดสอบเรือและระบบให้นิ่งก่อนโดยใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่งได้สั่งการให้มีการต่อเรือเพิ่มในช่วงปลายปีนี้อย่างน้อย 5 ลำ คาดว่าจะสามารถเริ่มใช้งานได้จริงในช่วงกลางปี 2564 ส่วนค่าโดยสารนั้น เบื้องต้นจะให้จัดเก็บในอัตราเดิม ไม่ให้ประชาชนมีภาระ ซึ่งต้องขอบคุณผู้ประกอบการที่ให้ความร่วมมือ ขณะที่ในวันศุกร์หน้าตนจะเข้าไปร่วมทดสอบระบบเรือไฟฟ้าต้นแบบเรือโดยสารแม่น้ำเจ้าพระยา คาดพร้อมนำมาให้บริการ ประชาชน ในช่วงเดือนธันวาคม 2563

ส่วนกรณีกระแสข่าวการเรียกรับผลประโยชน์ โดยอาศัยการเป็นอดีตคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ด้วยการอ้างถึงโครงการในหน่วยงาน ที่กำกับดูแลอยู่นั้น ว่า ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง  และได้มีการแจ้งความแล้ว  ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งในข่าวปรากฎชื่อของ ภาวัต อดีตที่ปรึกษา แต่เเหมือนเป็นคนละคนกัน โดยเรื่องนี้จะไม่ขอตอบอะไรมากกว่านี้ เพราะตนได้ตอบคำถามไปหลายรอบแล้ว .- สำนักข่าวไทย