ยอดขอใบอนุญาตตั้งรง.ในนิคมฯ ไตรมาส 3 พุ่ง

กรุงเทพฯ 12 ส.ค.- ตัวเลขยื่นคำขอใบอนุญาตประกอบกิจการในนิคมอุตสาหกรรมไตรมาส 3 ของปีงบ 63 มีมูลค่าการลงทุนรวม 74,395 ล้านบาท


นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 3 ของปีงบประมาณ 63 มีนักลงทุนที่ยื่นคำขอใบอนุญาตแจ้งเริ่มประกอบกิจการในนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศที่เปิดดำเนินการแล้ว 33 แห่ง รวมผู้ประกอบการแจ้งเริ่มประกอบกิจการ รวมทั้งสิ้น 163 ราย แบ่งออกเป็นการขออนุญาตประกอบกิจการในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(EEC) จำนวน 104 ราย และนิคมอุตสาหกรรมนอกพื้นที่ EEC จำนวน 59 ราย ทำให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 14,698 ราย รวมมูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้น 74,395 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 2562 (ต.ค.61- มิ.ย.62) มีผู้ยื่นคำขอใบอนุญาต เพิ่มขึ้น 41 ราย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในช่วงไตรมาส 2 มีสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่หลังจากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายและรัฐบาลได้ออกมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่อง

ทำให้การดำเนินธุรกิจภายในประเทศเริ่มกลับมาเป็นปกติ เห็นได้จากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมซึ่งรายงานโดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)ที่ระบุว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้น สอดคล้องกับการขออนุญาตที่เพิ่มขึ้นของผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม หลังจากก่อนหน้านี้มีโรงงานบางแห่งที่อาจได้รับผลกระทบเนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ต้องหยุดการผลิต ประกอบกับไม่มีการสั่งซื้อสินค้าจากลูกค้าต่างประเทศ แต่เมื่อรัฐบาลประกาศคลายล็อกดาวน์จึงทำให้กำลังการผลิตกลับมาฟื้นตัว และกลับมาดำเนินธุรกิจได้อีกครั้ง


นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมามีผู้ประกอบการมาติดต่อยื่นคำขอใบอนุญาตประกอบกิจการ ทั้งผู้ที่แจ้งประกอบกิจการใหม่ และขยายกิจการเดิม พบว่าส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ อุตสาหกรรมเหล็กและผลิตภัณฑ์โลหะ อุตสาหกรรมยานยนต์และการขนส่ง อุตสาหกรรมยาง พลาสติก และหนังเทียม อุตสาหกรรมเครื่องยนต์ เครื่องจักรและอะไหล่ และอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ โดยนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซียังคงครองแชมป์มีนักลงทุนให้ความสนใจมาลงทุนเป็นลำดับแรก

 นอกจากนี้ กนอ.ได้ออกมาตรการความช่วยเหลือให้กับผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรม และผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มาแล้ว 2 ระยะ ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะสามารถแบ่งเบาภาระและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้พัฒนา และผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมทั้งรายเล็ก และรายใหญ่ได้อย่างเหมาะสมทันท่วงที ลดภาระ เสริมสภาพคล่องได้ในระดับหนึ่ง

“ไทยมีข้อได้เปรียบหลายด้านที่เอื้อต่อการลงทุนโดยเฉพาะการมีซัพพลายเชนที่ดี (อ้างอิงข้อมูลจากผลการสำรวจแนวโน้มเศรษฐกิจของบริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นในประเทศไทย โดยหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ (JCCB) ) เทียบกับหลายประเทศในแถบอาเซียน อีกทั้งการมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุน ซึ่งในนิคมอุตสาหกรรมมีนักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจมาลงทุน ประกอบด้วย ญี่ปุ่น ร้อยละ 27.27  จีน ร้อยละ 16.36 ไต้หวัน ร้อยละ 9.09 ออสเตรเลีย ร้อยละ 5.45 และฮ่องกง ร้อยละ 5.45”ผู้ว่าการ กนอ.กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ