ทอท.แนะผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทาง 1 ชั่วโมงครึ่ง

กรุงเทพฯ 10 ส.ค. – ทอท. แนะเผื่อเวลาไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง หลังมีผู้โดยสารตกเครื่อง ย้ำยังคงมาตรการป้องกันโควิด-19
ร.ท.สัมพันธ์ ขุทรานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง กล่าวถึงกรณีอดีตตำรวจยศนายพันเดินทางมาขึ้นเครื่องล่าช้า เกิดอารมณ์ฉุนเฉียวอาละวาดทำลายคอมพิวเตอร์ของพนักงานสายการบิน ว่า ผู้โดยสารที่มาขึ้นเครื่องที่ท่าอากาศยานทั้งสนามบินดอนเมืองและสนามบินอื่นในกำกับดูแลของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. และข้อกำหนดของสายการบินต่าง ๆ ยังเป็นเช่นเดิม แม้สนามบินดอนเมืองจะมีผู้โดยสารลดลงเมื่อเทียบก่อนเกิดโควิด -19
ร.ท.สัมพันธ์ กล่าวว่า ผู้โดยสารควรต้องเผื่อเวลามาท่าอากาศยานไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง เพราะยังมีมาตรการคัดกรองผู้โดยสารเข้าพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดให้ผู้โดยสารทุกคนสวมหน้ากากอนามัย การคัดกรองอุณหภูมิตรงประตูทางเข้า เมื่อเดินทางมาที่เคาน์เตอร์เช็คอินของสายการบิน จากจุดนี้ผู้โดยสารควรจะเผื่อเวลาเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 45 นาที เนื่องจากหลังเช็คอินก็จะมีขั้นตอนโหลดกระเป๋าสัมภาระและผ่านจุดเอ็กซเรย์ตรวจค้น ซึ่งตามมาตรฐานของสนามบินดอนเมืองจะใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที เมื่อผ่านการตรวจค้นควรจะเดินทางไปถึงที่หน้าประตูขึ้นเครื่อง (Gate) ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 20 – 30 นาที ทำให้การเดินทางทันเวลาขึ้นเครื่องไม่มีปัญหาแน่นอน
สำหรับปริมาณการเดินทางของผู้โดยสารช่วงนี้ หลังการระบาดของโควิค 19 ไทยปรับตัวดีขึ้นไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศ มีเพียงผู้ติดเชื้อที่เดินทางกลับจากต่างประเทศเท่านั้น ปัจจุบันสนามบินดอนเมืองมีผู้โดยสารใช้บริการเฉลี่ยวันละ 45,000 คน ถือว่าปรับตัวดีขึ้นนับจากช่วงเดือนพฤษภาคมที่เคยมีผู้โดยสารเพียงวันละไม่เกิน 5,000 คนเท่านั้น และต้องยอมรับว่าการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทย หรือไทยเที่ยวไทยถือเป็นปัจจัยสำคัญ ทำให้มีผู้ใช้บริการสายการบินและท่าอากาศยานขณะนี้
ส่วนความคืบหน้าคดีอดีตตำรวจทำลายทรัพย์สินสายการบินนั้น รายงานข่าวจากสายการบินไทยแอร์เอเชียระบุว่า หลังเกิดเหตุสายการบินได้ลงบันทึกประจำวันและแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุไปแล้ว และจนถึงขณะนี้ขอยืนยันว่ายังไม่มีการยอมความกับผู้ก่อเหตุ หรือมีการชดใช้ค่าเสียหายให้แก่สายการบินแต่อย่างใด . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา จ่อแจ้งข้อหา “นุ-แซน” เพิ่มเติม และเชื่อว่ามีบุคคลอื่นที่ต้องถูกดำเนินคดีอีก ส่วน “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ยังไม่ประสานเข้าพบหลังออกหมายเรียก

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน ยิงสู้ จนท.

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน จ.นครพนม หลังหนีข้ามมา จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ปิดล้อมเกลี้ยกล่อมให้วางอาวุธ แต่ไม่สำเร็จ คนร้ายยิงต่อสู้

ขู่ยื่นเอาผิด รมว.ดีอี ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ปชช.

รัฐสภา 3 ธ.ค. – กมธ.ไอซีที สว. ขู่ ยื่น ม.157 เอาผิด รมว.ดีอี ฉุนเกียร์ว่าง ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ประชาชน – ปล่อย “หมอบุญ” หนีลอยนวล จี้รัฐยกปราบหลอกลวงออนไลน์เป็นวาระแห่งชาติ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม คนที่หก วุฒิสภา แถลงผลการประชุมกมธ. เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ซึ่งตรวจสอบกรณีการโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ให้ลงทุนในสินทรัพย์ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงอาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรณีของนพ.บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ที่พบกรณีฉ้อโกงและฟอกเงิน เป็นมูลค่าสูงกว่า 7,500 ล้านบาท อย่างไรก็ดีในคดีดังกล่าวถูกแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ห้วยขวาง แล้วปี 2566 แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ จนกระทั่งนพ.บุญเดินทางออกไปนอกประเทศและไม่มีการอายัดทรัพย์ ทั้งนี้ในการหลอกหลวงผ่านโฆษณาชวนเชื่อนั้น ทำผ่านโบรกเกอร์ที่หลอกลงทุน ทั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นนักลงทุนที่เคยลงทุนที่คุ้นเคยกับเครือโรงพยาบาลธนบุรี “จากการชี้แจงกรณี นพ.บุญของหน่วยงานที่ชี้แจง พบเป็นการโยนกลองกันไปมา ไม่มีหน่วยงานใดที่รับผิดชอบจริงจัง […]

ข่าวแนะนำ

บุญทรงรายงานตัว

“บุญทรง” รายงานตัวครั้งแรกหลังได้พักโทษ

“บุญทรง” รายงานตัวกับเจ้าหน้าที่คุมประพฤติครั้งแรก หลังได้รับการพักโทษจากคดีทุจริตจำนำข้าว ด้านลูกชายเผยพ่อตั้งใจบวชหลังพ้นโทษ

ชุมนุมเกาหลีใต้

นายกฯ ขอคนไทยในเกาหลีใต้ เลี่ยงพื้นที่ชุมนุม

“นายกฯ แพทองธาร” ขอคนไทยในเกาหลีใต้ ระมัดระวังหลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมนุม ติดตามข่าวสถานทูตใกล้ชิด หวังสถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ว

อัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว

อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากจีนสู่ไทย

“ชูศักดิ์” นำคณะผู้แทนไทยเดินทางไปยังวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มาประดิษฐานในไทยเป็นการชั่วคราว ณ ท้องสนามหลวง ระหว่าง 5 ธ.ค. 67 – 14 ก.พ. 68