กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – กอนช.เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง จากมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ-อีสาน
นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ขณะนี้อิทธิพลของร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางพื้นที่
ทั้งนี้ ประเมินปริมาณน้ำฝนตกสะสม พบว่าบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา และน่าน มีปริมาณฝนตกหนักสะสมในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง มากกว่า 150 มิลลิเมตร ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม น้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมฉับพลัน รวมถึงพื้นที่ที่มีน้ำล้นตลิ่ง หรือพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังเดิมและพื้นที่รับน้ำจากแม่น้ำต่าง ๆ ที่ไหลมาสมทบได้ ในช่วงวันที่ 7 – 8 สิงหาคม 2563 มีพื้นที่เสี่ยงเกิดอุทกภัยต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ดังนี้
เฝ้าระวังน้ำหลากบริเวณพื้นที่ลาดชันเชิงเขา พื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ ภาคเหนือ บริเวณ อ.สองแคว อ.ปัว อ.บ่อเกลือ อ.เมือง อ.เชียงกลาง อ.เวียงสา อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.บ่อหลวง จ.น่าน อ.ภูซาง อ.เชียงคำ จ.พะเยา อ.เชียงของ จ.เชียงราย อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน อ.เชียงดาว อ.ฝาง และแม่อาย จ.เชียงใหม่ และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ และเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง โดยลำน้ำที่ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำริมลำน้ำ บริเวณ แม่น้ำน่าน อ.ท่าวังผา อ.เมือง อ.เวียงสา อ.สองแคว จ.น่าน แม่น้ำลาว จ.เชียงราย แม่น้ำป่าสัก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ รวมทั้งระดับน้ำแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วบริเวณ ตั้งแต่ จ.เชียงราย เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหารอำนาจเจริญ ถึง จ.อุบลราชธานี
นายสำเริง กล่าวว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสภาพอากาศและสภาพน้ำอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตรในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง ซึ่งจะส่งผลกระทบให้น้ำหลากเอ่อล้นเข้าท่วมชุมชนในระยะถัดไปได้ เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ ในการป้องกันช่วยเหลือ พร้อมทั้งเตรียมรับสถานการณ์ฝนตกหนักในช่วงเวลาดังกล่าว ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลืออย่างทันท่วงที รวมทั้งประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ลาดชันเชิงเขา ที่ราบลุ่มต่ำริมลำน้ำ ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบให้รับทราบและเตรียมความพร้อมรับมือต่อไป.-สำนักข่าวไทย