กรุงเทพฯ 6 ส.ค. – เอกชนฝากทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ เร่งปรับแรงจูงใจลงทุนอีอีซีให้มากขึ้น พร้อมหาอาชีพเสริมแรงงานด้านท่องเที่ยว-เกษตรกรรม หวังต่อลมหายใจ หลังหมดมาตรการเยียวยาจากภาครัฐ
นายกลินท์ สารสิน ประธานหอการค้าไทย กล่าวถึงรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่มีการโปรดเกล้าฯ ในวันนี้ (6 ส.ค.) โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจรู้จักคุ้นหน้าคุ้นตาอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นนายปรีดี ดาวฉาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หรือแม้กระทั่งนายดอน ปรมัตถ์วินัย ที่ได้รับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีอีกตำแหน่ง รวมถึงคนอื่น ๆ ภาพรวมเห็นว่าบุคคลที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ภาคเอกชนส่วนใหญ่พอใจ หลังจากนี้ต้องดูต่อไปว่างานต่าง ๆ ที่ยังค้างจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร ส่วนไหนมีปัญหาจะต้องนำกลับมาปรับปรุงและรับฟังความคิดเห็น เช่น เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ถือเป็นโครงการที่ดีมีประโยชน์ต่อการลงทุน เพราะเป็นพื้นที่ที่จะเชิญชวนนักลงทุนเข้ามาในประเทศ แต่ต้องมาดูว่าอะไรเป็นปัญหาที่ต้องปรับปรุงจูงใจให้นักลงทุนสนใจอีอีซีมากขึ้น
ทั้งนี้ ยอมรับว่า 3-4 เดือนที่ผ่านมาจากปัญหาโควิด-19 ทำให้หลายธุรกิจประสบปัญหา เช่น ภาคการท่องเที่ยว ซึ่งขณะนี้การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวในเวลาอันใกล้คงทำได้ยาก แต่ภาครัฐจะต้องกลับไปพิจารณาว่าจะทำอย่างไรที่จะส่งเสริมให้กลุ่มท่องเที่ยวทั้งระบบไปทำธุรกิจอื่นเสริมการท่องเที่ยวในช่วงที่ยังไม่สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ รวมทั้งภาคการเกษตรที่มีแรงงานเดินทางกลับบ้านและทำการเกษตร เห็นว่ารัฐบาลควรจะส่งเสริมให้กลุ่มภาคเกษตรเหล่านี้มีหนทางทำเกษตรเพิ่มขึ้น เพื่อนำสินค้าเกษตรป้อนตลาดอุตสาหกรรม
เห็นว่ามาตรการเยียวยาของรัฐบาลในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาจะต้องพิจารณาช่วยเหลือกันต่อไป เช่น การดูแลค่าน้ำค่าไฟ ภาษี และอื่น ๆ เพื่อให้ผู้ได้รับผลกระทบและประชาชนยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ปีนี้ยอมรับว่าเศรษฐกิจประเทศได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่าง ๆ ในการประชุม กกร.เมื่อวานที่ผ่านมาจีดีพีประเทศติดลบมากกว่า 7-9% หากรัฐบาลโดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจสามารถหามาตรการแก้ไขในช่วงที่เหลือของปีนี้อาจทำให้เศรษฐกิจกระเตื้องปลายปีได้
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงรายชื่อ ครม.ชุดใหม่ว่า เป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะเป็นการสร้างความชัดเจน และเมื่อดูรายชื่อ ครม.ชุดใหม่ พบว่าเป็นผู้มีประสบการณ์เคยทำหน้าที่ในภาคธุรกิจที่ตรงกับตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจในการบริหารงานของรัฐบาล ประกอบกับการได้ว่าที่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ ก็จะทำให้เห็นว่าทีมเศรษฐกิจที่เข้ามาทำหน้าที่เป็นทีมที่สามารถสร้างความมั่นใจได้อย่างมาก
ส่วนเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ที่หลายคนมองว่าอัตราการเติบโตจะติดลบอย่างหนัก ตลาดได้รับรู้มาระยะหนึ่งแล้ว โดยขณะนี้มองไปที่การฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจต่าง ๆ ว่า จะฟื้นได้เร็วหรือไม่ โดย ตลท.กำลังติดตามอย่างใกล้ชิด.-สำนักข่าวไทย