กรุงเทพฯ 6 ส.ค. – รมว.เกษตรฯ สั่งสำรวจพื้นที่เสียหายจากน้ำท่วม เร่งช่วยเหลือด่วน ล่าสุดยังคงมีน้ำท่วมขังบางพื้นที่เชียงรายและร้อยเอ็ด ส่วนจังหวัดอื่นกลับสู่ภาวะปกติแล้ว ยังจำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากกรมชลประทานว่า ยังคงเหลือพื้นที่มีน้ำท่วมขัง 2 จังหวัด ได้แก่ เชียงรายและร้อยเอ็ด โดย จ.เชียงราย ระดับน้ำในลำน้ำแม่ลาว อ.แม่ลาว สูงขึ้นจนล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่เกษตร 4 ตำบล ได้แก่ บัวสลี ป่าอ้อดอนชัย จอมหมอกแก้ว และดงมะดะ โดยระดับน้ำในลำน้ำลาวเขต อ.แม่ลาว และ อ.เมือง ยังมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งโครงการชลประทานเชียงรายเครื่องจักร-เครื่องมือพร้อมรับสถานการณ์ หากน้ำล้นตลิ่งพื้นที่ลุ่มต่ำจะเร่งสูบน้ำออก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน จ.ร้อยเอ็ด ระดับน้ำในลำน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านหนองผักตบ ต.คำวิลัย อ.เสลภูมิ ประมาณ 200 ไร่ ทางโครงการชลประทานร้อยเอ็ดเรียงหินป้องกันการกัดเซาะจากการตัดยอดน้ำด้านท้ายน้ำ ร่วมจัดจราจรน้ำชี-ยัง โดยเปิดบานระบายน้ำพร่องน้ำ
ขณะที่เขื่อนยโสธรและเขื่อนธาตุน้อยรองรับน้ำที่จะไหลมาสมทบจากน้ำยังตอนบน น้ำที่ไหลมาจะลงแม่น้ำชีและบางส่วนจะผันเข้าไปเก็บกักไว้ตามแก้มลิง รวมทั้งแหล่งน้ำธรรมชาติ หากไม่มีฝนตกเพิ่มคาดว่า ประมาณ 2 – 3 วัน จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ แต่สั่งการให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ซึ่งสำนักงานชลประทานที่ 6 จัดเตรียมเครื่องสูบน้ำ 27 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 13 เครื่อง กระสอบบรรจุทราย 12,000 กระสอบ กล่องลวดตาข่าย (Mattress) หินใหญ่เสาเข็มพืด (Sheet pile) และบุคลากรเฝ้าระวังตลอดแนวผนังกั้นน้ำยัง สำหรับจังหวัดอื่นยังต้องติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ จ. ลำปาง ลำพูน และบึงกาฬ
ทั้งนี้ ศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร สำนักปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานผลกระทบด้านการเกษตรจากอิทธิพลของพายุซินลากู แบ่งเป็นด้านพืช 10 จังหวัด ได้แก่ แพร่ อุตรดิตถ์ น่าน ลำปาง เชียงราย แม่ฮ่องสอน เลย ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช เกษตรกร 6,366 ราย พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย 38,233.50 ไร่ ประกอบด้วย ข้าว 18,904.50 ไร่ พืชไร่ 9,986 ไร่ พืชสวน 9,343 ไร่ ด้านประมง 4 จังหวัด ได้แก่ พะเยา เลย นครพนม และหนองบัวลำภู เกษตรกร 1,396 ราย พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้รับผลกระทบ คือ บ่อปลารวม 1,137.25 ไร่ และด้านปศุสัตว์ 3 จังหวัด ได้แก่ เลย น่าน ลำปาง เกษตรกร 480 ราย สัตว์ ได้รับผลกระทบ 6,801 ตัว ได้แก่ โค-กระบือ 230 ตัว สุกร 76 ตัว และสัตว์ปีก 6,495 ตัว ซึ่งยังคงให้เจ้าหน้าที่ระดับภูมิภาคออกสำรวจเพิ่มเติมแล้วรายงานความเสียหายมายังกระทรวงฯ เพื่อช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด.-สำนักข่าวไทย