กรุงเทพฯ 29 ก.ค. – ธปท.แนะเอสเอ็มอีปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยเฉพาะครึ่งปีหลังยังมีความผันผวนสูงจากสถานการณ์โควิด-19
นางวชิรา อารมย์ดี ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ครึ่งปีหลังค่าเงินบาทมีทิศทางผันผวนรุนแรงจากการแพร่ระบาดโควิด-19 เนื่องจากยังต้องลุ้นวัคซีนและยังมีความเสี่ยงการแพร่ระบาดรอบ 2 รวมทั้งการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก จึงสนับสนุนการลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนด้วยการเปิดให้ใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการซื้อขาย ซึ่งมีหลายสกุลเงินมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงการซื้อทองคำด้วยสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถซื้อขายได้ภายในปีนี้ โดยเริ่มจากห้างทองรายใหญ่ก่อน
ล่าสุด ธปท.ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) สมาคมธนาคารไทย สถาบันธนาคารไทย ธนาคารพาณิชย์ 8 แห่ง และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ จัดทำ “โครงการส่งเสริมความรู้ด้านบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนและสนับสนุน SME ที่ทำการค้าระหว่างประเทศ” เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้เครื่องมือบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
สำหรับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการต้องมีคุณสมบัติเป็นผู้ส่งออกหรือนำเข้า กรณีธุรกิจการผลิต รายได้ไม่เกิน 500 ล้านบาทต่อปี กรณีภาคการค้ารายได้ไม่เกิน 300 ล้านบาทต่อปี เข้าร่วมอบรม e-learning ครบทุกหัวข้อ ทำแบบประเมินลูกค้าและทราบรายละเอียดการประกันค่าเงินภายใต้โครงการครบถ้วน ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับโอกาสทดลองใช้เครื่องมือ “การประกันค่าเงิน” หรือ FX options ได้รับวงเงินค่าธรรมเนียมสูงขึ้นเป็น 80,000 บาทต่อกิจการ รวมถึงผู้ประกอบการที่มีการส่งออกหรือนำเข้าในรูปสกุลเงินตราต่างประเทศอื่น ๆ นอกเหนือจากดอลลาร์สหรัฐ ได้แก่ ยูโร เยน หยวน ปอนด์ ดอลลาร์ออสเตรเลีย และดอลลาร์สิงคโปร์ ก็สามารถใช้เป็นหลักฐานในการซื้อ FX options ภายใต้โครงการนี้ได้ นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการนี้ยังจะได้รับวงเงินสนับสนุนค่าธรรมเนียมการค้าระหว่างประเทศ (Trade-related fees) จำนวน 20,000 บาทต่อกิจการ โดยผู้ประกอบการที่สนใจสามารถลงทะเบียนที่เว็บไซต์ www.exim.go.th ได้ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป .- สำนักข่าวไทย