“มนัญญา” ลั่นเดินหน้าแบนสารเคมีอันตรายเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค

กรุงเทพฯ 28 ก.ค. – รมช. มนัญญา เผยทำงานเต็มที่ตลอด 1 ปีในกระทรวงเกษตรฯ ชี้ไม่มีสัญญาณเปลี่ยนตำแหน่งจากนายกรัฐมนตรี ลั่นพร้อมทำงานแบนสารเคมีการเกษตรที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคต่อไป



นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ดำรงตำแหน่งนี้ ทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถ โดยเฉพาะการแบนสารเคมีทางการเกษตรอันตรายคือ พาราควอตและคลอร์ไพริฟอส ส่วนไกลโฟเซตได้ให้กรมวิชาการเกษตรรวบรวมข้อมูลส่งไปยังคณะกรรมการวัตถุอันตราย (วอ. ) เพื่อพิจารณาแบนต่อไป ซึ่งขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ วอ. ว่า จะลงมติอย่างไร สำหรับตนเองนั้นทำเพื่อผู้บริโภคชาวไทยทั้งประเทศให้ได้รับประทานอาหารปลอดสารเคมีและจะส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์อย่างกว้างขวางขึ้น
ส่วนการยกร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมเรื่อง ให้สารชีวภัณฑ์จากสมุนไพร 13 ชนิดซึ่งอยู่ในบัญชีวัตถุอันตรายชนิดที่ 2 ปรับมาอยู่ในบัญชีที่ 1 เพื่อให้เกษตรกรสามารถนำมาใช้ผลิตเพื่อกำจัดวัชพืชและศัตรูพืชนั้น ได้เร่งรัดให้กรมวิชาการเกษตรดำเนินการ ซึ่งมีการประชุมติดตามความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง เมื่อแล้วเสร็จจะเสนอให้คณะกรรมการวอ. พิจารณาเร็วที่สุด
“ทำงานเต็มที่เสมอ โดยยังไม่มีสัญญาณจากนายกรัฐมนตรีเรื่องการเปลี่ยนรัฐมนตรีโควต้าพรรคภูมิใจไทย ทั้งนี้ไม่มีใครจะหยุดยั้งการทำหน้าที่ซึ่งยืนหยัดตลอดมาได้” นางสาวมนัญญากล่าว

ด้านนางจรรยา มณีโชติ นายกสมาคมวิทยาการวัชพืชแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เรียกร้องให้คณะกรรมการวอ. ทบทวนมติแบนพาราควอต แล้วพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามหลักวิทยาศาสตร์เนื่องจากที่ผ่านมาหน่วยงานรัฐและผู้บริหารระดับสูงตัดสินใจตามข้อมูลของนักวิชาการที่เอ็นจีโอเสนอ โดยไม่มีการพิสูจน์และวิจัย ตลอดจนหาสารและวิธีการทดแทน จึงสร้างความเดือดร้อนให้เกษตรกรจำนวนมาก เมื่อกำจัดวัชพืชไม่ทันส่งให้พืชเศรษฐกิจเจริญเติบโตไม่ดี คาดว่า ผลผลิตจะต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ย



ทั้งนี้มั่นใจว่า ข้อมูลตามที่เอ็นจีโอเสนอว่า โรคเนื้อเน่าเกิดจากพิษของสารพาราควอตนั้น ไม่เป็นความจริง สาเหตุของโรคเนื้อเน่าคือ เชื้อแบคทีเรีย โดยสมาคมวิทยาการวัชพืชได้เก็บตัวอย่างดินและน้ำจากอ่างเก็บน้ำ 3 แห่งคือ ห้วยไข่ คลองเจริญ และลำน้ำโมงในตำบลบุญทัน อำเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภูมาตรวจพิสูจน์ในห้องปฏิบัติการของกรมวิชาการเกษตร ซึ่งปรากฏว่า ไม่พบพาราควอต แต่พบแบคทีเรียกินเนื้อคน (Aeromonas hydrophila) และเชื้อ Leptospira spp. สาเหตุของโรคฉี่หนู จึงไม่ตรงกับที่นักวิชาการฝ่ายเอ็นจีโอกล่าวอ้างว่า พบพาราควอตตกค้างปริมาณมาก ดังนั้นทางออกที่ดีที่สุดคือ ให้ผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ แล้วจึงตัดสินใจเกี่ยวกับการแบนพาราควอตจากข้อพิสูจน์ที่เชื่อถือได้ . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ภรรยาหมอบุญมอบตัว

“ภรรยา-ลูก” หมอบุญ อ้างถูกปลอมลายเซ็น ไม่เคยรู้การกระทำใดๆ

ทนายความภรรยา-ลูก หมอบุญ เผยถูกปลอมลายเซ็นเอกสาร ไม่เคยรับรู้การกระทำใดๆ ของหมอบุญ โดนภรรยาได้หย่าร้างกับหมอบุญ ก่อนปี 66

เลือกตั้ง อบจ.

“แสวง” ลงพื้นที่สังเกตการณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี

“เลขาฯ แสวง” ลงพื้นที่ตรวจรับ-มอบอุปกรณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี พร้อมสังเกตการณ์เลือกตั้งพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) วอนประชาชนออกมาใช้สิทธิ 8.00-17.00 น.

จับหมอดังฟอกเงิน

ออกหมายจับ “หมอดัง” พร้อมพวกรวม 9 คน “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน”

ตำรวจออกหมายจับ “หมอดัง” พร้อมพวกรวม 9 คนข้อหา “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน” ล่าสุดจับได้แล้ว 6 คน ส่วนอีก 3 คน อยู่ระหว่างติดตามตัว เบื้องต้นมีข้อมูลว่า “หมอดัง” หนีออกนอกประเทศตั้งแต่ ก.ย.ที่ผ่านมา