กรุงเทพฯ 28 ก.ค. – “จีพีเอสซี” ตั้งศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่ รองรับเตรียมขยายงานรับหนึ่งใน New Energy ที่กลุ่ม ปตท.โฟกัส ขยายการเติบโตตามเทรนด์โลก
นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด(มหาชน) หรือจีพีเอสซี เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้คณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติงบประมาณ 230 ล้านบาท จัดตั้งศูนย์พัฒนาและทดสอบแบตเตอรี่ ซึ่งจะใช้ทดสอบความปลอดภัยและต่อยอดพัฒนาการผลิตให้เหมาะสมเชิงพาณิชย์ หลังโครงการนำร่องโรงงานผลิตแบตเตอรี่แห่งแรกของประเทศไทยที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี Semi Solid ของบริษัท 24M Technologies จากสหรัฐ ซึ่งบริษัทฯ ได้รับลิขสิทธิ์และจัดจำหน่ายในประเทศและภูมิภาค เตรียมที่จะผลิตเซลล์แบตเตอรี่เซลล์แรกออกมาเดือนธันวาคมนี้
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวอยู่ในแผนพัฒนา S-Curve ที่ลงทุนในธุรกิจแบตเตอรี่ และระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) นับเป็น 1ใน 3 แผนหลักที่เสนอต่อที่ประชุมกำหนดยุทธศาสตร์และทิศทางในอนาคตกลุ่ม ปตท. (Strategic Thinking Session : STS) เมื่อเร็ว ๆ นี้ เป็นแผนการลงทุนช่วง 5 ปี (63-67) ภายใต้กลยุทธ์การเติบโต (3S) โดยอีก 2 แผน ได้แก่ 1.Synergy การสร้างมูลค่าเพิ่มจากการบริหารร่วมจากการซื้อกิจการบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือ GLOW 2.Selective Growth เน้นการขยายงานตามกลุ่ม ปตท.เช่น เป้าหมายมีสัดส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้า จากพลังงานหมุนเวียนเป็นสัดส่วน 30% จากปัจจุบันอยู่ที่ 11% หรือประมาณ 500 เมกะวัตต์ ขณะเดียวกันแผนลงทุน 5 ปี บริษัทยังมีเป้าหมายจะเพิ่มกำลังการผลิตในมืออีก 1,500 เมกะวัตต์ จากปัจจุบัน มีกำลังผลิตอยู่ที่ 5,026 เมกะวัตต์ โดยบริษัทยังมองหาโออกาสการเข้าซื้อกิจการ (M&A) โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนในต่างประเทศ คาดว่าครึ่งปีหลังจะมีความชัดเจนมากกว่า 1 ดีล โดยเป้าหมายประเทศในกลุ่มบ้านหลังที่ 2 ก็มีโอกาสขยายการงทุน ได้แก่ เมียนมา เวียดนามและไต้หวัน
“ทุกบริษัทในกลุ่ม ปตท.ทำงานร่วมกันหมด ทั้ง GC, TOP, IRPC เพราะมองเห็นว่าธุรกิจใหม่ S curve ไฟฟ้าจะเป็นฐานสำคัญ ก็คาดว่าภายในไตรมาส 3 ปีนี้ จะได้ข้อสรุปรูปแบบร่วมลงทุนธุรกิจไฟฟ้าที่ชัดเจนกับหนึ่งในเป้าหมายกลุ่มจะลงทุนพลังงานหมุนเวียน 8,000 เมกะวัตต์ ใน 10 ปี (ปี 63-72) โดยระยะ 5 ปีแรกวางเป้าจะมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 3,000 เมกะวัตต์” นายชวลิต กล่าว
ก่อนหน้านี้นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.ระบุว่า ปตท.อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการปรับโครงสร้างธุรกิจไฟฟ้ารองรับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงที่พลังงานรูปแบบใหม่ (new Energy) เช่น พลังงานทดแทน ยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ระบบสำรองไฟฟ้า (ESS) ดังนั้น เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการบริหารจัดการและสร้างการเติบโตทางธุรกิจให้สอดคล้องกับทิศทางของพลังงานที่เปลี่ยนแปลงไป คาดว่าจะมีข้อสรุปภายในปลายปี 2563.-สำนักข่าวไทย