กรุงเทพฯ 6 ต.ค.-ศูนย์วิจัยกสิไทย คาดหากรัฐบาลเลิกตรึงดีเซล-ก๊าซหุงต้มเงินเฟ้อจะปรับเพิ่มขึ้นจากกรณีตรึงราคาเพิ่มจากร้อยละ 0.7 เป็นร้อยละ 1.1 กระทบจีดีพีร้อยละ 0.2-0.4 ยังคาดจีดีพีปีนี้โตร้อยละ 4.6
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย วิเคราะห์ว่า หากราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในตลาดโลกที่ขณะนี้หลายฝ่ายคาดว่าอาจโอกาสแตะ 90-100 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล จากอุปทานในตลาดโลกที่ตึงตัว ท่ามกลางความต้องการใช้น้ำมันที่มากขึ้นในช่วงฤดูหนาว ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในปี 2561 ยังจำกัด แม้ว่าราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจะทำให้เงินเฟ้อในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี อาจจะสูงกว่าที่ประเมินไว้บ้าง แต่มาตรการตรึงราคาพลังงานของภาครัฐจะช่วยลดทอนผลกระทบจากความผันผวนของราคาน้ำมันในตลาดโลกลง
ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงยังคงมุมมองอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2561 ไว้ที่ร้อยละ 1.1 และการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยที่ร้อยละ 4.6 โดยอาจมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยจะอยู่ที่ร้อยละ 0.2-0.4 ผ่านเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น และดุลการค้าของไทยที่ลดลง ทั้งนี้ ดุลการค้าที่ลดลงมาจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่านำเข้าสุทธิน้ำมันของไทย (มูลค่านำเข้าน้ำมันดิบหักออกด้วยมูลค่าส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป) แต่ในขณะเดียวกัน มูลค่าการส่งออกในสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับราคาน้ำมัน เช่น เคมีภัณฑ์ และพลาสติก ก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ในกรณีที่ค่าเฉลี่ยน้ำมันดิบดูไบในปีหน้าอยู่ที่ 85 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล คิดเป็นการเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 13.3 เมื่อเทียบกับกรณีฐานที่ให้ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยในปี 2562 อยู่ที่ 75 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล ทั้งนี้ การส่งผ่านผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมายังตะกร้าเงินเฟ้อขึ้นอยู่กับนโยบายการตรึงราคาพลังงานของภาครัฐ ในกรณีที่มีการตรึงราคาดีเซลไว้ที่ 30 บาทต่อลิตร และก๊าซ LPG ไว้ที่ 363 บาทต่อถัง จะส่งผลให้เงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 0.7 ส่วนในกรณีที่มีการทยอยปรับราคาน้ำมันดีเซล และก๊าซ LPG ให้สะท้อนราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก จะส่งผลให้เงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 1.1 อย่างไรก็ตาม ในประเด็นของเงินเฟ้อในปีหน้า นอกจากเรื่องราคาน้ำมันที่จะมีผลต่อเงินเฟ้อแล้ว ยังต้องติดตามเรื่องภาวะภัยแล้งที่อาจจะมาเร็วกว่าที่คาด ซึ่งจะมีผลต่อราคาพืชผลเกษตรให้ปรับตัวสูงขึ้นและส่งผลต่อเงินเฟ้อในปีหน้าอีกทางหนึ่ง
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2562
|
ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยปี 2562
(ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล)
|
$75
|
$85
|
ส่วนเพิ่ม
|
กรณี มีมาตรการตรึงราคาพลังงาน
|
1.0%
|
1.7%
|
+0.7%
|
กรณี ไม่มีมาตรการตรึงราคาพลังงาน
|
1.0%
|
2.1%*
|
+1.1%
|
*หมายเหตุ: ให้การปรับตัวของราคาน้ำมันดีเซล
และก๊าซ LPG เป็นการทยอยปรับขึ้นเข้าใกล้ระดับราคาที่สะท้อนราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก
“กรณีที่ประเมินว่าระดับราคาน้ำมันที่สูงเป็นผลระยะสั้น การดำเนินนโยบายตรึงราคาพลังงานผ่านการใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อช่วยลดผลกระทบจากภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้นต่อผู้ใช้พลังงานอาจจะทำได้ หากเงินกองทุนฯ มีเพียงพอ อย่างไรก็ตาม หากราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูงนานกว่าที่ประเมิน จะส่งผลกระทบต่อฐานะเงินกองทุนน้ำมันให้ลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องมีการชั่งน้ำหนักระหว่างผลบวกในระยะสั้นและผลกระทบในระยะยาว”ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุ
ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดโกลผิดวานนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ขยับขึ้น 1 เซนต์ ปิดที่ 74.34 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 42 เซนต์ ปิดที่ 84.16 ดอลลาร์/บาร์เรล นักลงทุนหวั่น ปริมาณน้ำมันดิบในตลาดโลกจะลดลงเนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน ซึ่งจะมีผลวันที่4 พ.ย.61 -สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม