กรุงเทพฯ 12 พ.ค.- กรมการขนส่งทางบกระบุรถรับส่งนักเรียนต้องปลอดภัย ต้องได้รับอนุญาตและผ่านการรับรองจากโรงเรียน
นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกตระหนักถึงความสำคัญในทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของรถรับ-ส่งนักเรียน กำชับให้สำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ ตรวจสอบความปลอดภัยและการให้บริการของรถรับส่งนักเรียนในจังหวัดอย่างเข้มงวดต่อเนื่องตลอดภาคการศึกษา ทั้งด้านมาตรฐานความปลอดภัยของตัวรถและพนักงานขับรถ โดยต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของเด็กนักเรียนที่โดยสารมากับรถ และเป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการในการรับผิดชอบควบคุมดูแลความปลอดภัย จัดหารถโรงเรียนที่มีมาตรฐานตามมาตรฐานที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดมาให้บริการ
ส่วนการนำรถยนต์ส่วนบุคคลทั้งในลักษณะรถสองแถวและรถตู้มาใช้รับส่งนักเรียน ต้องผ่านการรับรองจากโรงเรียนหรือสถานศึกษา และนำรถเข้าตรวจสภาพ ณ สำนักงานขนส่งจังหวัดที่โรงเรียนหรือสถานศึกษาตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ โดยจะได้รับอนุญาตให้ใช้รถได้ครั้งละ 1 ภาคการศึกษาเท่านั้น โดยภายในรถต้องมีเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับช่วยเหลือนักเรียนเมื่อมีอุบัติเหตุ เช่น ถังดับเพลิง ชะแลง ค้อนทุบกระจก, วัสดุภายในรถต้องไม่มีส่วนแหลมคม, ที่นั่งผู้โดยสารต้องยึดแน่นมั่นคงแข็งแรง กรณีเป็นรถสองแถวต้องมีประตูและที่กั้นป้องกันนักเรียนตก ส่วนรถตู้ต้องจัดวางที่นั่งเป็นแถวตอนตามความกว้างของตัวรถเท่านั้น ส่วนการติดฟิล์มกรองแสงอนุญาตให้ติดฟิล์มกรองแสงแบบโปร่งใสหรือชนิดใสที่วัดปริมาณแสงผ่านไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 เพื่อให้เห็นสภาพภายในรถได้ตลอดคัน ด้านผู้ขับรถนักเรียนต้องไม่เป็นผู้มีประวัติเสียหายอันเกิดจากการขับรถ และต้องมีทักษะการขับรถและสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้เป็นอย่างดี จึงกำหนดให้ต้องเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถทุกประเภทตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก หรือใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ หรือใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลที่ได้รับอนุญาตมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี นอกจากนี้ รถรับส่งนักเรียนทุกคันต้องมีผู้ควบคุมดูแลนักเรียนประจำรถตลอดเวลาที่รับส่งนักเรียน เพื่อดูแลความปลอดภัย ห้ามนักเรียนยืน กำชับการคาดเข็มขัดนิรภัย และสามารถช่วยเหลือนักเรียนได้ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ เพื่อความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้ผู้ปกครอง
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการขนส่งทางบกห่วงใยสวัสดิภาพในการเดินทางของนักเรียน เนื่องจากอุบัติเหตุรถรับส่งนักเรียนส่วนใหญ่เกิดจากการไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดว่าด้วยความปลอดภัยของพนักงานขับรถและผู้ควบคุมดูแลประจำรถ ประกอบการกับนำรถยนต์ส่วนบุคคลมารับจ้างรับส่งนักเรียนโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้เกิดปัญหาความไม่ปลอดภัยทั้งในด้านผู้ขับรถ สภาพรถ และลักษณะรถ ตลอดจนพฤติกรรมการให้บริการซึ่งไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ทุกภาคส่วนจึงต้องร่วมกันสร้างความตระหนักถึงบทบาท หน้าที่ความรับผิดชอบ การให้บริการที่ดี และคอยดูแลความปลอดภัยของนักเรียน ยกระดับความปลอดภัยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ปกครอง ซึ่งหากพบรถรับส่งนักเรียนมีพฤติกรรมขับขี่รถไม่ปลอดภัย ดัดแปลงสภาพตัวรถหรือสภาพรถไม่ปลอดภัย บรรทุกผู้โดยสารเกิน หรือห้อยโหน ร้องเรียนได้ที่สายด่วน โทร. 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าว-สำนักข่าวไทย