กองสลากฯขอฟังความเห็นก่อนออกสลากชุดเอง

นนทบุรี 28 มี.ค.-สำนักงานสลากฯ ขอประชาพิจารณ์ 3 เดือน สรุปส่งบอร์ดมิ.ย.นี้ ก่อนออกสลากรวมชุดเอง หวังดึงราคาลงมาใกล้เคียงฉบับละ 80 บาทให้ได้มากที่สุด


นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ในฐานะโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล แถลงข่าวเกี่ยวกับการดำเนินการจัดทำสลากแบบรวมชุดว่า การแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลขายเกินราคาใบละ 80 บาท ในช่วงที่ผ่านมาในส่วนสลากใบแก้ไขปัญหาไปได้มาก โดยราคาส่วนใหญ่อยู่ที่ใบละ 80 บาท แต่ในส่วนของสลากชุด ยังมีการขายเกินราคาอยู่ แต่การรวมชุดจำนวนใบลดลง ส่วนใหญ่อยู่ที่ชุดละ 2 ใบ 3 ใบ และ ชุดละ 5ใบ ราคาขายคิดเฉลี่ยต่อใบก็ลดลงเช่นกัน จากเดิมราคาเคยอยู่ช่วงใบละ 120 ถึงใบละ 150 บาท ปัจจุบันลดลงมาเหลือเฉลี่ยใบละ 100 ถึง120 บาท แต่ภาพรวมสลากที่วางขายตามแผง กลับพบว่า จำนวนสลากใบลดลง จากที่เคยมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 70 ขณะที่สลากชุดมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นตามกระแสที่สังคมสนใจผู้ถูกรางวัลสลากชุด 180 ล้านบาท และผลจากการติดตามข่าวกรณีถูกรางวัล 30 ล้านบาทระหว่างครูปรีชาและหมวดจรูญ  ผู้ขายสลากจึงตั้งราคาขายสูงเพื่อขายแก่ประชาชนที่พร้อมซื้อ

ดังนั้นคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล จึงเห็นชอบให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจัดทำสลากชุดเอง และกระจายไปยังผู้ค้าสลากต่อไป ในราคาต้นทุนเพื่อให้ราคาสลากชุดมีราคาลดลงใกล้เคียงกับใบละ 80 บาทให้ได้มากที่สุด ซึ่งในช่วง  3 เดือนนับจากนี้ไปคือ เมษายนถึงมิถุนายนนี้ สำนักงานสลากฯ จะดำเนินการในการเปิดให้มีการรับฟังความคิดเห็น หรือประชาพิจารณ์ ผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.glo.or.th หรือสามารถส่งความเห็นผ่านตู้ปณ. เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอย่างทั่วถึงรวมถึงจะสอบถามไปด้วยในครั้งนี้ว่า ต้องการซื้อสลากในรูปแบบไหนในอนาคต  ยืนยันว่า ไม่มีนโยบายพิมพ์สลากฯเพิ่มขึ้นไปอีก ยังคงไว้ที่งวดละ 80 ล้านใบ และยังไม่มีนโยบายขายสลากแบบออนไลน์ อย่างลอตโต้


นอกจากนี้ ทีมโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล คณะทำงาน พร้อมด้วยผู้บริหาร จะเดินทางลงพื้นที่ เพื่อรับฟังความเห็นของผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เช่น  ผู้ซื้อ ผู้ขาย เจ้าหน้าที่จังหวัด นักวิชาการ ภาคประชาสังคม ในภูมิภาคต่างๆ  ทั่วประเทศอีกด้วย โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน เป็นต้นไป และภายใน เดือนมิถุนายนนี้สำนักงานสลากฯ จะสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวข้างต้น  เพื่อนำเสนอคณะกรรมการสลากพิจารณาซึ่งจะนำไปสู่การทำสลากชุดที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและความเหมาะสมกับสังคมไทยต่อไป

“การสอบถามจะถาม 3 กลุ่มคือ ผู้ซื้อ สอบถามว่า ต้องการซื้อสลากชุดหรือไม่ ซื้อในรูปแบบไหน ในรูปแบบ 1 ใหญ่ แทน 5 ใบรวมชุด หรือเป็นรวมชุด 5 ใบเล็ก หรือรูปแบบอื่น ๆ  รวมถึงสอบถามว่า ต้องการซื้อสลากในรูปแบบไหนในอนาคต ส่วนผู้ขายโดยเฉพาะคนพิการรายย่อยและสมาชิกองค์กรการกุศลต่าง ๆ ทั้งนิติบุคคลและรายบุคคล ก็จะสอบถามว่า ถ้าหากทางสำนักงานสลากฯ จะทำสลากชุดเห็นด้วยหรือไม่ อย่างไร รูปแบบสลากชุด การจัดจำหน่ายอย่างไร  ตู้เอทีเอ็ม โควต้า หรือการจำหน่ายเฉพาะเจาะจงที่ผ่านการคัดเลือกพิเศษและมีความซื่อสัตย์ในการจำหน่าย และกลุ่มเอ็นจีโอ จะสอบถามว่า ถ้าหากสำนักงานสลากฯ ออกสลากชุดเอง จะเป็นประโยชน์ต่อสังคมหรือไม่ จะเป็นการมอมเมาสังคมหรือไม่ จะถามให้ครบถ้วน ผ่าน 3 รูปแบบทั้ง ผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.glo.or.th ให้ทุกคนแสดงความเห็น จดหมายเปิดผนึกโดยขอให้ลงชื่อผู้แสดงความเห็น และทีมโฆษกสำนักงานสลากฯและคณะทำงานจะลงพื้นที่สำคัญๆ ที่มีการซื้อขายสลากจำนวนมากและการทำโฟกัสกรุ๊ป จากนั้นในเดือนท้ายๆ ของช่วง 3 เดือนนี้(เม.ย.ถึง มิ.ย.) จะส่งแนวทางดำเนินการของสำนักงานสลากฯไปสอบถามอีกครั้ง จากนั้นจะสรุปส่งให้คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลพิจารณามิ.ย.นี้เพื่อพิจารณาตัดสินต่อไป  สลากชุด จะดำเนินการออกโดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลค่อนข้างแน่ ถ้าไม่มีกระแสคัดค้านจากกลุ่มเอ็นจีโอ กลุ่มประชาชนอย่างรุนแรง” นายธนวรรธน์ กล่าว

สำหรับมาตรการในการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคานั้น โฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ปัญหาสลากเกินราคานั้น เกิดจากปัจจัยแวดล้อมหลายประการ การแก้ไขปัญหาจึงต้องใช้มาตรการหลายอย่างประกอบกันในทุกมิติ รวมทั้งต้องมีความต่อเนื่องในการดำเนินการ ในห้วงที่ผ่านมา จาก road map ระยะที่ 2 สำนักงานฯ ได้สร้างโอกาสในการเข้าถึงสลากอย่างเป็นธรรม ด้วยระบบซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล ผ่านระบบธุรกรรมของธนาคารกรุงไทยและจัดส่งสลากผ่านไปรษณีย์ ถึงผู้รับโดยตรง ในราคาต้นทุน ฉบับละ 70.40 บาท ตลอดจนการปรับปริมาณสลากในตลาดให้เข้าสู่สมดุล จาก 37 ล้านฉบับ เป็น 50 ล้านบับ ในเดือนตุลาคม 2558 และ 80 ล้านฉบับ ในเดือนพฤศจิกายน 2560 ตามความต้องการของตลาด เพื่อสร้างสมดุลราคาในตลาดขายปลีกสำหรับผู้ซื้อ และสมดุลราคาที่ผู้ขายพอใจมากขึ้น 


จากนี้ไป จะเข้าสู่ road map ระยะที่ 3 จะมีการพัฒนาระบบซื้อ-จองล่วงหน้าฯ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อีกทั้งจะมีการคัดกรองผู้ขายจริงให้อยู่ในระบบที่ชัดเจน และสามารถตรวจสอบได้โดยประชาชนรวมถึงภาคประชาสังคม ทั้งนี้ จะยังคงความเข้มข้นในการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับผู้กระทำผิดสัญญา  เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาเกินราคาอย่างเป็นระบบและกระจายโอกาสในการเข้าถึงการซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลอย่างเป็นธรรมและเป็นระบบยิ่งขึ้น-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]

“ปราสาทตาเมือนธม” วุ่น ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย

กทม. 15 ก.ค.-ทบ.อยู่ระหว่างตรวจสอบปมความวุ่นวาย “ปราสาทตาเมือนธม” หลังมีข่าวทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย ด้าน มทภ.2 ยันสถานการณ์ปกติ อย่าตื่นตระหนก 15 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล หลังเกิดเหตุความไม่เรียบร้อยที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ จากกรณีหญิงชาวกัมพูชา ตะโกนใส่ทหารไทยว่าล้ำเส้นเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา และมีการทะเลาะกันเสียงดัง ทำให้ทหารไทยและทหารกัมพูชาที่อยู่ในจุดนั้นต้องเข้ามาห้าม แต่เหตุการณ์ลุกลาม ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย วิ่งเข้ามาในบริเวณฝั่งไทย ตรงบันไดทางขึ้นปราสาทตาเมือนธม ทางด้านทหารไทยก็ได้เข้าไปอยู่ในจุดดังกล่าวด้วย โดยสถานการณ์มีการผลักอกกัน ตะโกนโวยวาย ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 แจงว่า ปราสาทตาเมือนธม เหตุการณ์ปกติ ไม่มีอะไร ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตกใจ.-313.-สำนักข่าวไทย