กองสลากฯขอฟังความเห็นก่อนออกสลากชุดเอง

นนทบุรี 28 มี.ค.-สำนักงานสลากฯ ขอประชาพิจารณ์ 3 เดือน สรุปส่งบอร์ดมิ.ย.นี้ ก่อนออกสลากรวมชุดเอง หวังดึงราคาลงมาใกล้เคียงฉบับละ 80 บาทให้ได้มากที่สุด


นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ในฐานะโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล แถลงข่าวเกี่ยวกับการดำเนินการจัดทำสลากแบบรวมชุดว่า การแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลขายเกินราคาใบละ 80 บาท ในช่วงที่ผ่านมาในส่วนสลากใบแก้ไขปัญหาไปได้มาก โดยราคาส่วนใหญ่อยู่ที่ใบละ 80 บาท แต่ในส่วนของสลากชุด ยังมีการขายเกินราคาอยู่ แต่การรวมชุดจำนวนใบลดลง ส่วนใหญ่อยู่ที่ชุดละ 2 ใบ 3 ใบ และ ชุดละ 5ใบ ราคาขายคิดเฉลี่ยต่อใบก็ลดลงเช่นกัน จากเดิมราคาเคยอยู่ช่วงใบละ 120 ถึงใบละ 150 บาท ปัจจุบันลดลงมาเหลือเฉลี่ยใบละ 100 ถึง120 บาท แต่ภาพรวมสลากที่วางขายตามแผง กลับพบว่า จำนวนสลากใบลดลง จากที่เคยมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 70 ขณะที่สลากชุดมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นตามกระแสที่สังคมสนใจผู้ถูกรางวัลสลากชุด 180 ล้านบาท และผลจากการติดตามข่าวกรณีถูกรางวัล 30 ล้านบาทระหว่างครูปรีชาและหมวดจรูญ  ผู้ขายสลากจึงตั้งราคาขายสูงเพื่อขายแก่ประชาชนที่พร้อมซื้อ

ดังนั้นคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล จึงเห็นชอบให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจัดทำสลากชุดเอง และกระจายไปยังผู้ค้าสลากต่อไป ในราคาต้นทุนเพื่อให้ราคาสลากชุดมีราคาลดลงใกล้เคียงกับใบละ 80 บาทให้ได้มากที่สุด ซึ่งในช่วง  3 เดือนนับจากนี้ไปคือ เมษายนถึงมิถุนายนนี้ สำนักงานสลากฯ จะดำเนินการในการเปิดให้มีการรับฟังความคิดเห็น หรือประชาพิจารณ์ ผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.glo.or.th หรือสามารถส่งความเห็นผ่านตู้ปณ. เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอย่างทั่วถึงรวมถึงจะสอบถามไปด้วยในครั้งนี้ว่า ต้องการซื้อสลากในรูปแบบไหนในอนาคต  ยืนยันว่า ไม่มีนโยบายพิมพ์สลากฯเพิ่มขึ้นไปอีก ยังคงไว้ที่งวดละ 80 ล้านใบ และยังไม่มีนโยบายขายสลากแบบออนไลน์ อย่างลอตโต้


นอกจากนี้ ทีมโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล คณะทำงาน พร้อมด้วยผู้บริหาร จะเดินทางลงพื้นที่ เพื่อรับฟังความเห็นของผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เช่น  ผู้ซื้อ ผู้ขาย เจ้าหน้าที่จังหวัด นักวิชาการ ภาคประชาสังคม ในภูมิภาคต่างๆ  ทั่วประเทศอีกด้วย โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน เป็นต้นไป และภายใน เดือนมิถุนายนนี้สำนักงานสลากฯ จะสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวข้างต้น  เพื่อนำเสนอคณะกรรมการสลากพิจารณาซึ่งจะนำไปสู่การทำสลากชุดที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและความเหมาะสมกับสังคมไทยต่อไป

“การสอบถามจะถาม 3 กลุ่มคือ ผู้ซื้อ สอบถามว่า ต้องการซื้อสลากชุดหรือไม่ ซื้อในรูปแบบไหน ในรูปแบบ 1 ใหญ่ แทน 5 ใบรวมชุด หรือเป็นรวมชุด 5 ใบเล็ก หรือรูปแบบอื่น ๆ  รวมถึงสอบถามว่า ต้องการซื้อสลากในรูปแบบไหนในอนาคต ส่วนผู้ขายโดยเฉพาะคนพิการรายย่อยและสมาชิกองค์กรการกุศลต่าง ๆ ทั้งนิติบุคคลและรายบุคคล ก็จะสอบถามว่า ถ้าหากทางสำนักงานสลากฯ จะทำสลากชุดเห็นด้วยหรือไม่ อย่างไร รูปแบบสลากชุด การจัดจำหน่ายอย่างไร  ตู้เอทีเอ็ม โควต้า หรือการจำหน่ายเฉพาะเจาะจงที่ผ่านการคัดเลือกพิเศษและมีความซื่อสัตย์ในการจำหน่าย และกลุ่มเอ็นจีโอ จะสอบถามว่า ถ้าหากสำนักงานสลากฯ ออกสลากชุดเอง จะเป็นประโยชน์ต่อสังคมหรือไม่ จะเป็นการมอมเมาสังคมหรือไม่ จะถามให้ครบถ้วน ผ่าน 3 รูปแบบทั้ง ผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.glo.or.th ให้ทุกคนแสดงความเห็น จดหมายเปิดผนึกโดยขอให้ลงชื่อผู้แสดงความเห็น และทีมโฆษกสำนักงานสลากฯและคณะทำงานจะลงพื้นที่สำคัญๆ ที่มีการซื้อขายสลากจำนวนมากและการทำโฟกัสกรุ๊ป จากนั้นในเดือนท้ายๆ ของช่วง 3 เดือนนี้(เม.ย.ถึง มิ.ย.) จะส่งแนวทางดำเนินการของสำนักงานสลากฯไปสอบถามอีกครั้ง จากนั้นจะสรุปส่งให้คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลพิจารณามิ.ย.นี้เพื่อพิจารณาตัดสินต่อไป  สลากชุด จะดำเนินการออกโดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลค่อนข้างแน่ ถ้าไม่มีกระแสคัดค้านจากกลุ่มเอ็นจีโอ กลุ่มประชาชนอย่างรุนแรง” นายธนวรรธน์ กล่าว

สำหรับมาตรการในการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคานั้น โฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ปัญหาสลากเกินราคานั้น เกิดจากปัจจัยแวดล้อมหลายประการ การแก้ไขปัญหาจึงต้องใช้มาตรการหลายอย่างประกอบกันในทุกมิติ รวมทั้งต้องมีความต่อเนื่องในการดำเนินการ ในห้วงที่ผ่านมา จาก road map ระยะที่ 2 สำนักงานฯ ได้สร้างโอกาสในการเข้าถึงสลากอย่างเป็นธรรม ด้วยระบบซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล ผ่านระบบธุรกรรมของธนาคารกรุงไทยและจัดส่งสลากผ่านไปรษณีย์ ถึงผู้รับโดยตรง ในราคาต้นทุน ฉบับละ 70.40 บาท ตลอดจนการปรับปริมาณสลากในตลาดให้เข้าสู่สมดุล จาก 37 ล้านฉบับ เป็น 50 ล้านบับ ในเดือนตุลาคม 2558 และ 80 ล้านฉบับ ในเดือนพฤศจิกายน 2560 ตามความต้องการของตลาด เพื่อสร้างสมดุลราคาในตลาดขายปลีกสำหรับผู้ซื้อ และสมดุลราคาที่ผู้ขายพอใจมากขึ้น 


จากนี้ไป จะเข้าสู่ road map ระยะที่ 3 จะมีการพัฒนาระบบซื้อ-จองล่วงหน้าฯ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อีกทั้งจะมีการคัดกรองผู้ขายจริงให้อยู่ในระบบที่ชัดเจน และสามารถตรวจสอบได้โดยประชาชนรวมถึงภาคประชาสังคม ทั้งนี้ จะยังคงความเข้มข้นในการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับผู้กระทำผิดสัญญา  เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาเกินราคาอย่างเป็นระบบและกระจายโอกาสในการเข้าถึงการซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลอย่างเป็นธรรมและเป็นระบบยิ่งขึ้น-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.บังคับใช้ 7 มาตรการแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง

ผบ.ตร. บังคับใช้ 7 มาตรการเข้มข้น แก้ไขปัญหาคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง ถูกหลอกลวง หรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย และอาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำชัดให้เห็นผลภายใน 7 วัน หากพบเจ้าหน้าที่มีเอี่ยวหรือบกพร่อง ฟันเด็ดขาด

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

ฝุ่น กทม.

แดงเกือบทั้งกรุง คุณภาพอากาศวิกฤติ ฝุ่น PM 2.5 กระทบต่อสุขภาพ

คุณภาพอากาศกรุงเทพฯ วิกฤติต่อเนื่อง เช้านี้ฝุ่น PM 2.5 อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 67 พื้นที่ คุณภาพอากาศจะแย่แบบนี้ไปถึงสัปดาห์หน้า

ตร.สอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการ “ปิดจบสยบ Fiwfans”

ตำรวจสอบสวนกลาง “เปิดปฏิบัติการปิดจบสยบ Fiwfans (ฟิวแฟน)” เว็บไซต์ค้ากามเด็กออนไลน์ จับแอดมิน 5 ราย ดำเนินคดี พบในรอบ 4 ปี มีหญิงค้าประเวณีผ่านเว็บไซต์กว่า 40,000 ราย อายุต่ำสุด 15 ปี พบเงินหมุนเวียนกว่า 3,000 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

มาตรการสู้ฝุ่น

ขานรับมาตรการสู้ฝุ่น เช้าวันทำงาน “รถไฟฟ้า-รถเมล์” ขึ้นฟรี

“รถไฟฟ้า-รถเมล์” ฟรีตามมาตรการสู้ฝุ่น เช้าวันทำงาน พบส่วนใหญ่เลือกนั่งรถฟรี ประหยัดค่าใช้จ่าย ส่วนรถไฟฟ้าคนแน่น ขณะที่โรงเรียน กทม. 437 แห่ง เปิดเรียนตามปกติ

อุตุฯ เผยอีสาน อุณหภูมิลดลง 4-6 องศาฯ กทม.อากาศเย็นตอนเช้า-ลมแรง

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน อุณหภูมิลดลง 4-6 องศาฯ กับมีลมแรง ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก อุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล

เมย์วิวคว้าแชมป์แบด

“เมย์-วิว” คว้าแชมป์อินโดนีเซีย มาสเตอร์ส

“น้องเมย์” รัชนก อินทนนท์ และ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ คว้าแชมป์แบดมินตันอินโดนีเซีย มาสเตอร์ส ในประเภทหญิงเดี่ยวและชายเดี่ยว