ตลท. 7 ก.พ. – ตลาดหุ้นไทยพลิกปิดลบ 2.99 จุด กังวลผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอ่อนลง แต่มูลค่าซื้อขายยังหนาแน่นกว่า 73,000 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดที่ระดับ 1,785.44 จุด ลดลง 2.99 จุด (-0.17%) มูลค่าการซื้อขาย 73,870.26 ล้านบาท โดยการซื้อขายวันนี้ (7 ก.พ.) ดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ แตะจุดสูงสุดที่ระดับ 1,804.75 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,782.94 จุด
น.ส.จิตรา อมรธรรม รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ภาพตลาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวด์ตามดาวโจนส์และตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างก็รีบาวด์ขึ้นมา แต่ตลาดบ้านเราก็ดูเหมือนเป็นลักษณะของการแกว่งตัวในระหว่างทาง โดยตลาดฯ ไม่ถึงขนาดคลื่นลมสงบทีเดียวคงเป็นเพราะตลาดฯ ยังต้องใช้เวลาระยะหนึ่งในการยืนยันถึงผลกำไรดีจริง ๆ ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่ามีอนาคตสดใส
ทั้งนี้ หลายตลาดรีบาวด์ขึ้นภายหลังจากที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (Bond Yield) อ่อนลง แต่ยังไม่ได้ปรับตัวลงมาในระดับที่ปลอดภัย โดย Bond Yield ยังไม่ลงมาในระดับปกติ ซึ่งมองว่าคงจะต้องใช้เวลาสักพัก อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวขึ้น ดังนั้น มองการพักฐานในแนวโน้มขาขึ้น เพียงแต่ตลาดบ้านเราปรับตัวขึ้นไปมากแล้ว ดังนั้น ต้องใช้เวลาในการพักตัวบ้าง ซึ่งยังมองว่าเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกเริ่มจะดี ตลาดฯ คงจะแกว่งในกรอบอีกระยะหนึ่ง เพื่อรอให้งบฯ ออกมายืนยัน
ด้านประเภทนักลงทุน สถาบันซื้อสุทธิ 3,687.00 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 1,880.02 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 3,536.58 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 1,729.60 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย