7 ทำเลทาวน์เฮ้าส์น่าลงทุนรอบกทม.

กรุงเทพฯ 2 ม.ค.- ทาวน์เฮ้าส์  7 ทำเล พื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล มียอดขายย้อนหลัง 3 ปี พุ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ย  ส่วนทิศทางปี 61 ยังเติบโตดี


นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ได้ทำการสำรวจที่อยู่อาศัยประเภททาวน์เฮ้าส์ ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล คือ จังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และจังหวัดนครปฐม 7 ทำเล ประกอบด้วย ได้แก่ ทิศไต้: 1.กระทุ่มแบน-สาม พราน 2. ทุ่งครุ-พระ ประแดง, ตะวันตก : 3. ธนบุรี-ราษฎร์บูรณะ, ทิศเหนือ : 4. ลาดหลุมแก้ว 5. ดอนเมือง-สายไหม, ตะวันออก: 6. อ่อนนุชบางนา และ 7. สุวรรณภูมิ-บางเสาธง  ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2557-2560) พบว่า กำลังซื้อในที่อยู่อาศัยประเภททาวน์เฮ้าส์เริ่มกลับมา แม้ว่าปี 2560 ที่ผ่านมาจะไม่มีนโยบายกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะแต่อุปสงค์และอุปทานยังเติบโตได้ดี จึงคาดว่าทิศทางในปี 2561 ตลาดทาวน์เฮ้าส์จะยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง เหตุจากราคาเสนอขายยังไม่ปรับตัวขึ้นสูงมากนัก ซึ่งเหมาะกับกำลังซื้อของคนในพื้นที่ นอกจากนี้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคน่าจะมีสัญญาณเติบโตตามทิศทางเศรษฐกิจที่เริ่มคลี่คลายอย่างต่อเนื่องในปี 2560 และจะมีแรงส่งต่อไปยังปี 2561 ต่อไป

สำหรับการสำรวจพิจารณาจากอัตราขายได้และอัตราดูดซับเฉลี่ยของแต่ละทำเลเทียบกับค่าเฉลี่ยกลาง 7 ทำเล พิจารณาจากอัตราดูดซับ 6.00 ยูนิต/เดือน/โครงการ และอัตราขายได้ร้อยละ 47 พบว่า มีทำเลศักยภาพที่ขายดีและน่าลงทุน ซึ่งหมายถึงมียอดขายเฉลี่ยสูงกว่าค่าเฉลี่ยกลาง ทั้ง 7 ทำเลนี้มีราคา 1.2 – 2.99 ล้านบาท และสามารถเชื่อมต่อด้านการคมนาคมเข้าสู่ตัวเมืองได้สะดวกจึงได้รับความนิยมค่อนข้างมาก จากการวิเคราะห์พบว่า ในทุกๆ ทำเลมีราคาเสนอขายที่ไม่สูงมาก โดยมีราคา 1.2 -2.99 ล้านบาท ยกเว้นทำเลกระทุ่มแบน – สามพรานที่ราคาเสนอขายยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 1.2 ล้านบาท


 

หากพิจารณาในด้านของศักยภาพของแต่ละทำเลนั้น พบว่า กระทุ่มแบน-สามพราน เป็นพื้นที่เขตปริมณฑลที่มีจุดเด่นจากทำเลไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ทำให้ผู้ที่พักอาศัยในพื้นที่นี้สามารถเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองกรุงเทพฯ ด้วยถนนพระราม 2 และถนนเพชรเกษมได้โดยง่าย นอกจากนี้ราคาทาวน์เฮ้าส์ในทำเลนี้ ยังเสนอขายในระดับต่ำกว่า 1.2 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันพบทาวน์เฮาส์ระดับราคาต่ำ กว่า 1.2 ล้านบาทหาได้ยากและเสนอขายเพียงบางทำเลที่ราคาที่ดินยังไม่ปรับขึ้นสูงมากนัก ซึ่งกระทุ่มแบน-สามพรานเป็นทำเลที่มียอดตอบรับทาวน์เฮาส์ในระดับราคานี้สูงที่สุด จากการพัฒนาโครงการที่สามารถตอบสนองกลุ่มกำลังซื้อในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี

 


ทำเลทุ่งครุ-พระประแดง เป็นทำเลที่อยู่ใกล้กับกับทางพิเศษเฉลิมมหานครและถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอก) จึงดึงดูดให้เกิดกำซื้อในทำเลนี้เพราะสามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ และเชื่อมต่อไปยังภูมิภาคอื่นได้อย่าง สะดวกสบาย นอกจากนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ที่กำลังจะเริ่มก่อสร้างช่วงปลายปี 2561 และจะช่วยดึงผู้คนจากฝั่งธนบุรีเข้าสู่ฮับการเดินทาง หรือสถานีกลางบางซื่อ เพื่อเชื่อมต่อไปยังสถานที่ต่างๆ ในเมืองได้อย่างสะดวก

 

ทำเลธนบุรี-ราษฎร์บูรณะ เป็นทำเลฝั่งธนบุรีที่ใกล้ย่านศูนย์กลางธุรกิจแวดล้อมด้วย แนวรถไฟฟ้า 3 สาย ได้แก่ รถไฟฟ้า  บีทีเอสสายสีเขียวเข้ม (สายสีลม) ที่เปิดให้บริการมาเป็นเวลานาน รถไฟฟ้าสายสีม่วง (สถานีเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) ที่เริ่มก่อสร้างช่วงปลายปี 2561 และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (สถานีหัวลำโพง-บางแค) ที่การก่อสร้างคืบหน้าแล้วเกินกว่าร้อยละ 85 ทำให้ผู้อยู่อาศัยในทำเลนี้สามารถเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองกรุงเทพฯได้หลากหลายเส้นทาง

 

ทำเลลาดหลุมแก้ว เป็นทำเลในเขตปทุมธานีที่สามารถเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองกรุงเทพฯ ได้ผ่านทางด่วนสายอุดรรัถยาและเชื่อมต่อไปยังภูมิภาคต่างๆได้ผ่านถนนกาญจนาภิเษก(วงแวนรอบนอก) นอกจากนี้ยังอยู่ในทำเลที่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (สถานีบางซื่อ-รังสิต) ที่มีความคืบหน้าในการก่อสร้างแล้วร้อยละ 60 ซึ่งมีแผนเปิดให้บริการในอีก 3 ปีข้างหน้า และในอนาคตภาครัฐมีแผนพัฒนาส่วน ต่อขยายจากสถานีรังสิตไปยังมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิตอีกด้วย เอื้ออำนวยให้การเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองของกลุ่มกำลังซื้อ ทั้งพนักงานบริษัทเอกชน ข้าราชการ หรือเจ้าของกิจการในละแวกนี้มีความสะดวกมากขึ้นในอนาคต

 

ดอนเมือง – สายไหม เป็นทำเลในโซนเหนือที่มีรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (สถานีบางซื่อ-รังสิต)                                              และรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย (สถานีหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) พาดผ่านซึ่งทั้งสองเส้นทางมีแผนเปิดให้บริการอีก 3 ปีข้างหน้า อีกทั้งการเข้าสู่ตัวเมืองกรุงเทพฯได้สะดวก ผ่านทางยกระดับอุตราภิมุข (โทลเวย์) และทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ทำให้ทำเลนี้ได้รับความนิยมจากพนักงานบริษัทเอกชน พนักงานที่ทำงานในสนามบินดอนเมือง หรือเจ้าของกิจการในละแวกนั้นเป็นอย่างดี

 

อ่อนนุช – บางนา เป็นทำเลใกล้ย่านศูนย์กลางธุรกิจที่สามารถเข้าสู่ตัวเมืองได้ผ่านรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีเขียว (สถานีหมอชิต-แบริ่ง) ซึ่งเปิดให้บริการมาเป็นเวลานาน และล่าสุดก็ได้เปิดให้บริการในส่วนต่อขยาย ประกอบกับการมีทางพิเศษเฉลิมมหานคร ช่วยให้การเดินทางเชื่อมต่อไปยังสถานที่ต่างๆ ของกลุ่มกำลังซื้อในพื้นที่นี้มีความสะดวกสบายจากรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียวหรือสายสุขุมวิทที่เปิดให้บริการเป็นเส้นทางแรกในกรุงเทพฯ และตอบสนองการใช้ชีวิตของผู้คนได้เป็น อย่างดีทำให้ทาวน์เฮาส์ที่พัฒนาใกล้ใจกลางเมืองในย่านอ่อนนุช-บางนาได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง จากช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา  

 

สุวรรณภูมิ – บางเสาธง เป็นทำเลในจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสนามบินสุวรรณภูมิ สามารถเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองกรุงเทพฯ และเชื่อมต่อไปยังภูมิภาคต่างๆ ได้ผ่านทางพิเศษบูรพาวิถี, มอเตอร์เวย์, ถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอก) ประกอบกับการมี รถไฟฟ้า Airport Rail Link (สถานีพญาไท-สุวรรณภูมิ), รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย (สถานีแบริ่งสมุทรปราการ) และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (สถานีลาดพร้าว-สำโรง) ที่ภาครัฐมีการเตรียมแผนพัฒนาอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งกระตุ้นให้เกิดความต้องการซื้อทาวน์เฮาส์จากพนักงานในสนามบินสุวรรณภูมิหรือเจ้าของกิจการในพื้นที่นี้ได้เป็นอย่างดี-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

พิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.7 ประดิษฐานหน้าอาคารรัฐสภา

รัฐสภา 20 ก.ย.- รัฐสภา จัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (องค์ใหม่) ประดิษฐานหน้าอาคาร ขนาดใหญ่กว่าพระองค์จริง 4 เท่า เมื่อเวลา 08.00 น. รัฐสภา จัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (องค์ใหม่) เพื่อประดิษฐานบนแท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ ณ บริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภา (ถนนสามเสน) โดยมีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่1 เป็นประธานในพิธี นอกจากนี้ยังมี พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. นายชวนหลีก หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปปัตย์ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่านพรรคเพื่อไทย น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ สส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า และประธานกรรมการ บมจ.อสมท รวมถึงข้าราชการรัฐสภา ร่วมพิธีด้วย โดยนายไชยาและพล.อ.สวัสดิ์ ถวายพวงมาลัยและโปรยดอกไม้ที่พระบาทของพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ จากนั้นปักธูปที่เครื่องบวงสรางพร้อมโปรยดอกไม้ จากนั้นนายฉัตรชัย ปิ่นเงิน หัวหน้าโหรพราหมณ์ สำนักพระราชวัง อ่านโองการจากนั้นเชิญประธานในพิธีโปรยดอกไม้ที่โต๊ะเครื่องบวงสรวง วางพานประดับพุ่มดอกไม้ และจุด ธูป เทียน […]

อุตุฯ เตือน 9 จังหวัดรับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 20 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือน 9 จังหวัดรับมือฝนตกหนัก เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อน “มิแทก” บริเวณทะเลมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำและสลายตัวอย่างรวดเร็ว ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางไว้ด้วย -สำนักข่าวไทย

สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” ปมร้องเรียนทุจริตเงินวัด-พัวพัน 3 สีกา

19 ก.ย. – สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” และเดินทางออกจากวัดทันที หลังก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนเกี่ยวกับทุจริตเงินวัด และพัวพัน 3 สีกา เป็นภาพเอกสารที่พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ส่งไปยังเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เพื่อชี้แจงกรณีของผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง พร้อมแนบภาพถ่ายการลาสิกขาของผู้ช่วยเจ้าอาวาส เอกสารระบุข้อความว่า “ตามที่มีประเด็นปรากฏในสื่อออนไลน์ และสื่อต่างๆ เกี่ยวข้องกับผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ทางวัดหัวลำโพง ขอชี้แจงตามประเด็นดังต่อไปนี้ 1.กรณีพฤติกรรมชู้สาวของพระครูปริยัติวัฒนกิจ ทางวัดยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนบุคคล2.กรณียักยอกงินวัดนั้น ทางวัดขอชี้แจงว่า ยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากหน้าที่ของพระครูปริยัติวัฒนกิจ เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ฌาปนสถานวัดหัวลำโพง มีหน้าที่ประสานงานกับเจ้าภาพที่มาติดต่อเกี่ยวกับการจองศาลาบำเพ็ญกุศล อีกทั้งฌาปนสถานวัดหัวลำโพง ประกอบด้วยกรรมการบริหารจำนวน 5 รูป โดยมีเจ้าอาวาสเป็นประธาน และมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายในส่วนฌาปนสถานของวัดมาโดยตลอด 3.กรณีลาสิกขา ทางพระครูปริยัติวัฒนกิจ แจ้งความประสงค์ลาสิกขาด้วยความสมัครใจ เพื่อมิให้กระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ของวัด และศรัทธาของสาธุชน โดยลาสิกขา 18 ก.ย. 2568 เวลา 19.10 น. และเดินทางออกจากวัดทันที ย้อนดูคำชี้แจง “อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ”ย้อนดูคำชี้แจงจากปากของอดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ ก่อนหน้านี้ที่ทีมข่าวได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ สำหรับเรื่องทุจริตเงินวัด อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ บอกว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเอง […]

เบื้องหลังละครกัมพูชา

สระแก้ว 19 ก.ย. – ชาวกัมพูชาที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ยังไม่รามือ หลังพบความพยายามรวบรวมฝูงชนจากพื้นที่อื่น เข้ามาสร้างสถานการณ์ยึดดินแดนไทย อาจมีเบื้องหลังเป็นข้าราชการกัมพูชา-นายทุนต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย