รมช.คมนาคมให้ขสมก.เร่งจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี

กรุงเทพฯ 9 ธ.ค.- รมช.คมนาคมให้นโยบายขสมก.เร่งสรุปจัดหารถเมล์เอ็นจีวี 489 คน โดยบอร์ขสมก.จะประชุมพิจารณาหลังมีเอกชนเสนอความสนใจ 1 รายสัปดาห์หน้า และส่งแผนฟื้นฟูกิจการให้คนร.พิจารณาด่วน


นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมให้นโยบายคณะกรรมการและผู้บริหารองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.)หลังจากนั้น เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายเร่งด่วนในการจัดหารถเมล์ใหม่โดยเฉพาะรถเอ็นจีวี 489 คัน ซึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากมีการเชิญเอกชนเข้ามาร่วมประมูลขายรถ มีเอกชนสนใจ 1 ราย และทราบว่า ในสัปดาห์หน้าคณะกรรมการขสมก.จะประชุมพิจารณาเรื่องดังกล่าว ซึ่งจะต้องติดตามต่อไปว่า คณะกรรมการขสมก.จะสรุปเรื่องการเสนอราคาของเอกชนและเปิดประมูลต่ออย่างไร แต่เชื่อว่า การเปิดประมูลรอบนี้น่าจะได้ผลสำเร็จ แต่เบื้องต้นได้ขอให้คณะกรรมการขสมก.ปฎิบัติตามพรบ.จัดซื้อจัดจ้างอย่างเคร่งครัด ขณะที่เป้าหมายจัดหารถใหม่เข้ามาให้บริการยังคงเป็นไปตามที่กระทรวงคมนาคม กำหนดไว้ว่า เปิดภาคเรียนของปีการศึกษา 2561 ขสมก.จะต้องมีรถใหม่เพื่อให้บริการเด็กนักเรียนในกทม.และพื้นที่ใกล้เคียง


สำหรับปัญหาการฟื้นฟูกิจการของขสมก. ซึ่งเบื้องต้นได้ขอให้ขสมก.จัดทำแผนเพื่อนำเสนอคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(คนร.)ให้เร็วที่สุดส่วนปัญหาภาระหนี้ที่ขสมก.มีกว่า 100,000 ล้านบาท และมีคำถามอยู่ตลอดเวลาว่า รัฐบาลจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างไรนั้น เรื่องดังกล่าวถือเป็นประเด็นสำคัญและกระทรวงคมนาคมวิเคราะห์ปัญหาว่า ที่ผ่านมาการที่ขสมก.เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของกระทรวงคมนาคม ซึ่งถือเป็นกระทรวงใหญ่ ไม่ได้อยู่ภายใต้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือกรุงเทพมหานคร(กทม.)ส่งผลให้การปรับราคาค่าโดยสารที่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงจะต้องอยู่ภายใต้การกำกับของรัฐบาลและการเมืองก็ทำให้การปรับราคาค่าโดยสารดำเนินการได้ยาก ดังนั้นในวันนี้ จึงได้มีคำถามไปถึงฝ่ายบริหารและคณะกรรมการขสมก.ว่า ตามแนวทางที่ถูกต้อง ขสมก.ควรเป็นหน่วยงานอยู่ในสังกัดใด ซึ่งเรื่องนี้ อยากให้ขสมก.เป็นผู้เสนอความเห็นขึ้นมาเพื่อให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาต่อไป


นายไพรินทร์ กล่าวว่า ยังมีปัญหาที่เป็นส่วนสำคัญของการขนาดทุนของขสมก.เนื่องจากเป็นบริการสาธารณะ ซึ่งตามข้อเท็จจริงบริการรถเมล์สาธารณะในต่างประเทศที่ส่วนใหญ่อยู่ภายใต้กำกับองค์กรภาครัฐก็จะต้องมีการชดเชยผลการดำเนินการให้แก่หน่วยงาน เพื่อรักษามาตรฐานการบริการแก่ประชาชนได้มีรถเมล์ใช้ที่มีคุณภาพ ขณะเดียวกันยังมีปัญหาว่า การให้บริการรถเมล์โดยสารซึ่งปัจจุบันนี้ รถเมล์ที่มีอยู่ในระบบในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมลฑล ขสมก.มีรถให้บริการไม่ถึงครึ่งโดยที่เหลือเป็นรถร่วมบริการ และจากข้อมูลก็พบว่า ข้อเท็จจริงนั้น รถเมล์ของ ขสมก.เป็นรถบริการที่มีคุณภาพ และต้องไปพิจารณาต่อไปว่า ในอนาคตยังจำเป็นต้องมีระบบรถร่วมบริการหรือไม่ก็ต้องไปพิจารณาในรายละเอียดต่อไป ทั้งนี้ รมช.คมนาคมยังได้ฝากการบ้านให้ผู้บริหารขสมก.พิจารณาเรื่องการนำระบบเทคโนโลยีมาให้บริการในส่วนงานเก็บค่าโดยสารเช่น ระบบ QR CODE เพื่อให้การเก็บค่าโดยสารรถมีความสะดวกและรวดเร็วประชาชนสามารถใช้บริการครอบคลุมในทุกกลุ่ม-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง